ติดต่อเราติดต่อเราFacebookติดต่อเรา

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ความศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อที่มีมาแต่อดีต

ในประเทศไทย ความเชื่อ ความศักดิ์สิทธิ์ และความศรัทธาเป็นของที่อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนาน ในทุกความเชื่อและประเพณีของชาติไทย “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” หรือ “ศาลหลักเมือง” คือหนึ่งในสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธาของคนในแต่ละจังหวัดได้อย่างไม่น่าเหลือเชื่อ เพราะเป็นศูนย์กลางแห่งความเชื่อที่ผูกพันชีวิตของชุมชนและวัฒนธรรมไทยอย่างแยกไม่ออก ตั้งแต่ยุคสุโขทัยผ่านยุคอยุธยาและมาจนถึงยุครัตนโกสินทร์ ศาลหลักเมืองไม่เพียงแต่พื้นที่ที่สำคัญสำหรับการประกอบพิธีกรรมในแต่ละจังหวัดเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจและวัฒนธรรมที่มีความเป็นไทยสืบสานกันต่อมา

การที่แต่ละเมือง (จังหวัด) ต่างมีศาลหลักเมืองเป็นของตนเอง ไม่เพียงแสดงถึงความเชื่อและความเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างชุมชน และประชากรในพื้นที่นั้นที่มีตั้งแต่ในอดีตต่อเมือง ดังนั้นบทความในครั้งนี้เราจะพาไปสำรวจประวัติและความเป็นมาของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกันว่าทำไมถึงมีขึ้นมา และมีความเชื่ออะไรจึงทำให้กลายเป็นดั่งศูนย์รวมของคนในแต่ละเมือง (จังหวัด)

ร่องรอยประวัติความเป็นของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง หรือที่ถูกเรียกสั้น ๆ ว่า “ศาลหลักเมือง” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่รวมความเชื่อและพิธีกรรมของหลายศาสนาเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งศาสนาพุทธ, พราหมณ์ และศาสนาพื้นบ้านแบบจีน มักตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นชัยภูมิสำคัญของเมืองอย่าง “เสาหลักเมือง” โดยแต่ครั้งก่อนที่จะสร้างเมืองในแต่ละพื้นที่ (จังหวัด) มักจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในพื้นที่ที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ หรือเป็นใจกลางเสมอ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น

การสร้าง “เสาหลักเมือง” ในประเทศไทยเป็นประเพณีที่เก่าแก่ มีมาตั้งแต่ยุคกรุงสุโขทัย และยังดำเนินต่อมาในยุคกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ โดยประเพณีการสร้างเสาหลักเมืองนี้มีรากฐานมาจากประเพณีพราหมณ์ของอินเดีย มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นมิ่งขวัญและนิมิตมงคลให้กับบ้านเมืองที่กำลังจะสร้างขึ้นมา และยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงตำแหน่งหลักของเมือง เพื่อช่วยให้บ้านเมืองนั้นอยู่ร่มเย็นและอยู่กันอย่างเป็นสุข นอกจากนี้การสร้างเสาหลักเมือง ยังไม่เพียงแต่เป็นประเพณีที่เป็นความเชื่อก่อนตั้งรากฐานสร้างเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนดั่งเครื่องหมายทางศาสนาและพิธีกรรม ให้ประชาชนหรือคนในพื้นที่ได้รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันอีกด้วย

ถ้าให้ยกตัวอย่าง ศาลหลักเมืองที่เห็นได้ชัดเลยคือ “ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ” ที่เป็นศาลเจ้าตั้งอยู่คู่กับเสาหลักเมืองที่อยู่ใจกลางกรุงเทพ เป็นสถานที่สำคัญที่ชาวกรุงเทพฯ เคารพและให้ความนับถือกันมาอย่างยาวนาน มักมีการเข้าไปกราบไหว้เพื่อขอพรและความสำเร็จในชีวิต โดยทั่วไปแล้วเมื่อมีประเพณีหรือพิธีการที่เกี่ยวข้องกับเสาหลักเมืองมักจะจัดขึ้นในวันสำคัญต่าง ๆ เช่น วันสงกรานต์หรือวันเริ่มต้นปีใหม่ไทย

ซึ่งอย่างไรก็ดีศาลหลักเมืองในแต่ละเมือง (จังหวัด) จะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ ความศรัทธา และอิทธิพลที่ได้รับเข้ามาในแต่ละพื้นที่ แต่โดยหลักแล้ว “ศาลหลักเมือง” หรือ “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” จะเป็นสถานที่ที่มีอยู่ในทุกที่ของแต่ละจังหวัด แต่จะมีขนาดความใหญ่ หรือความอลังการแตกต่างกันไป

ยกตัวอย่างเช่น “ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี” ซึ่งแต่เดิมเรียกกันว่า “ศาลเทพารักษ์หลักเมือง” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพนับถือของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รวบรวมศิลปะหลาย ๆ ด้าน ทั้งพุทธปฎิมากรรมสลักบนแผ่นหินแบบนูนต่ำในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ซึ่งเป็นศาสนาที่ชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ทิเบต ญวน เขมร นับถือ เป็นศิลปะแบบขอมเป็นรูปพระวิษณุกรรมสวมหมวกแขก ในศิลปะไพรกเม็ง และรูปปั้นมังกรสวรรค์ที่เป็นความเชื่อของจีนผสมผสานลงไปด้วย นอกจากนี้ยังมีการนำรูปปั้นหรือปูนปั้นต่าง ๆ ที่แสดงถึงความเชื่อมาจัดตั้งแสดงให้ชาวเมือง หรือผู้คนได้เข้ามากราบไหว้บูชาอยู่ด้วย

ซึ่งอย่างไรก็ดี “ศาลหลักเมือง” หรือ “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” ยังคงเป็นเหมือนดั่งศูนย์กลางของคนในแต่ละเมือง (จังหวัด) ให้รู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียว และยังเป็นสถานที่สำคัญสำหรับการประกอบพิธีกรรม หรือประเพณีที่สำคัญของคนในแต่ละจังหวัดด้วย

ความเชื่อต่าง ๆ ของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

ความเชื่อต่าง ๆ ของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

ในอดีตมีความเชื่อที่ว่า ในทุกครั้งที่การจะมีการสร้างเสาหลักเมืองจะต้องทำพิธีฝังอาถรรพ์ หรือพิธีฝังเสาหลักเมืองด้วยการจับคน 4 คน (ไม่มีการระบุว่าเป็นใคร) ไปฝังลงในหลุมเสาหลักแบบทั้งเป็น เพื่อให้วิญญาณของคนเหล่านี้อยู่เฝ้าหลักเมือง เฝ้าประตูเมือง เฝ้าปราสาท และคอยคุ้มครองบ้านเมือง ป้องกันไม่ให้อริราชศัตรูและปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บไม่ให้เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่ของเมือง แต่ความเชื่อนี้ก็เป็นเพียงความเชื่อส่วนหนึ่งของคนที่เล่าต่อมาในอดีต ไม่ได้มีถูกบันทึกในพงศาวดารแต่อย่างใด

โดยในปัจจุบัน “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” หรือ “ศาลหลักเมือง” มีความเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของเจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งเป็นวิญญาณผู้คุ้มครองและปกป้องบ้านเมืองไม่ให้ตกอยู่ในภัยพิบัติหรืออันตรายใด ๆ และยังคอยส่งเสริมให้เมืองมีความเจริญรุ่งเรือง ชาวบ้านหรือคนในพื้นที่จึงมักจะเข้ามาที่ศาลเพื่อกราบไหว้และขอพรเมื่อมีเรื่องสำคัญ หรือแม้แต่เรื่องธรรมดาทั่วไปในชีวิตประจำวัน เพราะพวกเขาเชื่อว่าการได้รับพรจากเจ้าพ่อหลักเมืองจะช่วยให้ชีวิตอยู่ร่มเย็นเป็นสุข และสำเร็จความหวังได้ทุกประการ

ประเพณี วัฒนธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

ในใจกลางของเมืองหลาย ๆ เมืองทั่วประเทศไทย มีสถานที่สำคัญหนึ่งต้องมีอยู่เสมอเลยคือ “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” หรือ “ศาลหลักเมือง” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เพียงแต่ศูนย์รวมของความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในพื้นที่ไว้ แต่ยังเป็นพื้นที่เก็บรักษาความเชื่อและประเพณีอันสำคัญของบ้านเมืองในแต่ละพื้นที่เอาไว้อีกด้วย

ยกตัวอย่างเช่น “พิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองจังหวัดอุบลราชธานี” ประเพณีอันเก่าแก่ของชาวอุบลราชธานีที่จะมารวมตัวกันที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองในทุกวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 7 ของทุกปี พิธีกรรมนี้ถูกจัดขึ้นด้วยจุดประสงค์ให้เมืองและชุมชนมีความเป็นสุข ร่มเย็น และเพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามเก่าแก่ของจังหวัดให้คงอยู่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสืบทอดไปยังรุ่นต่อไป

หรือ “ประเพณีแห่เจ้าพ่อหลักเมือง” ที่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปีบริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองของจังหวัดสมุทรสาคร โดยจะอัญเชิญเจ้าพ่อหลักเมืองไปประทับเกี้ยวลงเรือประมงประดับธงทิวอย่างสวยงาม แล้วแห่ไปตามแม่น้ำท่าจีนจากตลาดมหาชัยไปฝั่งท่าฉลอมบริเวณวัดสุวรรณาราม และอัญเชิญไปจนถึงวัดช่องลม เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชาวสมุทรสาคร หรือประชาชนที่เข้ามารับชม

กล่าวได้เลยว่าพิธีกรรมหรือประเพณีต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในพื้นที่ หรือบริเวณ “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” ไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความรื่นเริงให้กับชาวเมืองและชุมชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงความเชื่อ และความศรัทธาที่มีตั้งแต่ในอดีตต่อศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ในเมืองนั้น ๆ ด้วย

บทสรุป

สรุปให้เข้าใจว่า “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ศาลหลักเมือง” ที่เราเห็นอยู่ได้ทุกตามเมือง หรือทุกจังหวัดในประเทศไทยนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่สำคัญทางศาสนาหรือวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธาที่มีมาอย่างยาวนานในสังคมไทย ตั้งแต่ยุคสุโขทัย จนมาถึงยุครัตนโกสินทร์ โดยทำหน้าที่เป็นเหมือนดั่งศูนย์รวมจิตวิญญาณของคนในชุมชน คอยเก็บรักษาความเชื่อและประเพณีอันดีงามไว้ถ่ายทอดให้ยังรุ่นต่อไปอีกด้วย เพื่อเป็นการสร้างสิริมงคล และความร่มเย็นให้กับชาวบ้าน และบ้านเมือง

ซึ่งพิธีกรรมหรือประเพณีท้องถิ่นต่าง ๆ ที่จัดขึ้นที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองในแต่ละจังหวัดเป็นการยืนยันต่อความเชื่อมโยงของชาวบ้านที่มีต่อเมืองนั้น ๆ และยังเป็นการแสดงออกถึงความภาคภูมิใจและการเคารพต่อวิถีชีวิตที่ได้รับการสืบทอดมาจากคนรุ่นก่อน ซึ่งการยึดมั่นในความเชื่อเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้คนในชุมชนรู้สึกผูกพันและเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาสามารถรับมือและผ่านพ้นความยากลำบากไปด้วยกันได้อีกด้วย

Relate Post

17/04/2025
7 ไอเดียตกแต่งบ้านด้วย งานประติมากรรมมินิมอล เพิ่มความทันสมัย

ความมินิมอลกำลังกลายเป็นกระแสที่ทุกคนหลงรักในยุคปัจจุบัน ซึ่งคุณสามารถพบเห็นสไตล์นี้ได้ตามแหล่งทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ เสื้อผ้า หรือ สิ่งของ เช่นเดียวกันกับ “งานประติมากรรม” ที่ปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้คน ที่ต้องการความมินิมอลที่ไม่ใช่แค่การตกแต่งบ้านหรือสถานที่ แต่คือศิลปะที่ช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณของความเรียบง่ายและความงามในทุกมุมมอง ซึ่งสามารถสื่อถึงรสนิยมของคุณผ่านสิ่งของเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี งานประติมากรรมปูนปั้นมินิมอลคืออะไร? ทำไมถึงเข้ากันได้? งานประติมากรรมมินิมอล คือ การผสมผสานระหว่างศิลปะและการออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย โดยคำว่า "มินิมอล" (Minimal) มาจากแนวคิดการลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป ด้วยการลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็น เหลือไว้เพียงแก่นแท้ที่สำคัญที่สุด ซึ่งตรงคำนิยามที่ว่า "น้อยแต่มาก" ซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัวกับวัสดุปูนที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงและสง่างาม อีกทั้งความมินิมอลยังสามารถเชื่อมโยงกับสิ่งรอบ ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น รูปแบบของงานปูนปั้นที่มีรูปทรงเรขาคณิต สายเส้นเรียบ ๆ หรือพื้นผิวที่เน้นความดิบและเป็นธรรมชาติ งานเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความทันสมัย แต่ยังเข้ากันได้ดีกับการตกแต่งบ้านในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในบ้านสไตล์มินิมอล เสน่ห์ของงานประติมากรรมมินิมอล งานประติมากรรมมินิมอลเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานความเรียบง่ายและความลึกซึ้งไว้ด้วยกัน จุดเด่นของงานเหล่านี้คือการนำเสนอความงามในรูปแบบที่ไม่ซับซ้อน แต่กลับสะท้อนความคิดสร้างสรรค์และรายละเอียดที่ละเอียดอ่อน อีกทั้งยังง่ายต่อการดูแลรักษา ความพิเศษของงานประติมากรรมมินิมอลยังอยู่ที่วัสดุที่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นปูน โลหะ หรือไม้ ซึ่งล้วนให้ความรู้สึกที่ต่างกัน เช่น ปูนที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงและดิบ หรือไม้ที่แฝงไปด้วยความอบอุ่นและธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่าสนใจให้กับพื้นที่โดยรอบ นอกจากนี้ งานประติมากรรมมินิมอลยังเข้ากันได้ดีกับสไตล์การตกแต่งบ้านยุคใหม่ ไม่ว่าคุณจะมีบ้านโทนขาวสะอาดตา […]

Read More
09/04/2025
งานปูนปั้น งานศิลป์งดงามแต่โบราณ สู่การพัฒนางานปูนปั้นร่วมสมัย

งานปูนปั้น ถือเป็นหนึ่งในงานศิลปะที่มีรากฐานลึกซึ้งในวัฒนธรรมไทย ซึ่งถูกใช้ทั้งในงานศาสนาและสถาปัตยกรรมมาอย่างยาวนาน เป็นงานที่สะท้อนถึงความงดงามและความประณีตของวัฒนธรรมไทยมาตั้งแต่ยุคโบราณ ด้วยลวดลายที่อ่อนช้อยและรายละเอียดที่เต็มไปด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์ งานปูนปั้นไม่ได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมที่ประดับประดาวัดวาอารามและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดความเชื่อ ค่านิยม และศิลปะแห่งความเป็นไทยในแต่ละยุคสมัย อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคปัจจุบัน งานปูนปั้นแบบโบราณได้ถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนาจนเกิดเป็นงานปูนปั้นร่วมสมัยที่สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบดั้งเดิมกับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบลวดลายที่หลากหลาย การใช้วัสดุที่ทนทานและเหมาะสมกับยุคสมัย หรือการนำไปประยุกต์ใช้ในบริบทที่หลากหลายขึ้น เช่น การตกแต่งภายในอาคาร งานประติมากรรมสมัยใหม่ หรือแม้แต่ของตกแต่งขนาดเล็กในชีวิตประจำวัน งานปูนปั้นจึงยังคงสถานะของการเป็นงานศิลป์ที่งดงามและทรงคุณค่า แม้เวลาจะเปลี่ยนแปลงไป แต่เสน่ห์ของมันยังคงอยู่และก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทำความรู้จักงานปูนปั้นแบบโบราณ งานศิลปกรรมอันโดดเด่นของไทย ในงานปูนปั้นแบบโบราณ เป็นงานศิลปะที่สะท้อนถึงความงดงาม ละเอียดอ่อน และความเชื่อในสังคมไทยที่สืบทอดกันมายาวนาน โดยมีบทบาทสำคัญในการตกแต่งสถาปัตยกรรมศาสนา เช่น วัด โบสถ์ เจดีย์ และปราสาทราชวัง งานปูนปั้นแบบโบราณมักแสดงถึงเอกลักษณ์ไทยผ่านลวดลายที่มีความประณีต เช่น ลายกนก ลายเถาวัลย์ ลายพรรณพฤกษา และภาพเทพนม หรือสัตว์ในวรรณคดีที่แสดงถึงความเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์ทางศาสนา โดยมีลักษณะเด่นของงานปูนปั้นแบบโบราณดังนี้ งานปูนปั้นแบบโบราณไม่ได้เป็นเพียงงานศิลปะที่ประดับประดาอาคารเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความเชื่อของคนในยุคนั้น ๆ รวมถึงแสดงถึงความสามารถและความชำนาญของช่างศิลป์ไทยที่สร้างสรรค์งานได้อย่างวิจิตรตระการตา การอนุรักษ์และศึกษางานปูนปั้นเหล่านี้จึงเป็นการรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญให้คงอยู่ต่อไปในยุคปัจจุบัน งานปูนปั้นแบบโบราณจึงเป็นตัวแทนแห่งศิลปะและจิตวิญญาณของคนไทยที่ยังคงคุณค่า ไม่ว่าจะมองในแง่ของความงาม หรือความหมายในเชิงจิตวิญญาณ งานปูนปั้นร่วมสมัย งานศิลปะของไทย […]

Read More
07/04/2025
สุสานหุ่นปั้น: เบื้องหลังเรื่องเล่าจากอดีตสู่ประติมากรรมที่ถูกลืม

หากจะพูดถึงสถานที่สุดหลอนของไทย ต้องมีชื่อสถานที่แห่งนี้ติดโพลแน่นอน สำหรับสุสานหุ่นปั้นที่อยู่กลางทุ่งโล่งกว้างใน ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา สถานที่กำลังถูกพูดถึงเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เป็นแหล่งรวมปะติมากรรมหลากหลายรูปแบบ บ้างก็สมบูรณ์ราวกับยังมีชีวิต บ้างก็แตกร้าวเหมือนแบกรับความเจ็บปวดของกาลเวลาไว้ในสถานที่รกร้าง ความเงียบงันที่แผ่ซ่านทำให้บรรยากาศที่นี่ราวกับโลกที่หยุดหมุน แต่ใครกันจะคิดว่า ความเงียบงันเหล่านี้เหมือนกำลังรอให้ใครสักคนกลับมาปลุกชีวิตอีกครั้ง ความลึกลับของสุสานหุ่นปั้นในตำนาน ที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่สุสานของหุ่นปั้นที่ถูกทิ้งร้าง ท่ามกลางความเงียบสงบของพื้นที่ห่างไกลเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวให้ผู้คนท้องถิ่นต่างพูดถึง สุสานหุ่นปั้น ในฐานะสถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับผ่านหุ่นปั้น ที่บ้างเล่าว่าเป็นที่สิงสถิตของจิตวิญญาณที่สามารถให้โชคลาภ เนื่องจากมีตำนานหรือความเชื่อที่เล่าขานกันมาว่ามี กระดูกคนตายอยู่ในรูปปั้น บางชิ้นอาจถูกใช้ในพิธีกรรมโบราณและบ้างก็ว่านี่คือสถานที่ที่เก็บซ่อนประติมากรรมอันล้ำค่า ไว้จากสายตาโลกภายนอก โดยแต่ละชิ้นล้วนสะท้อนถึงฝีมือและจินตนาการของผู้สร้างได้อย่างลึกซึ้งที่มาพร้อมกับเรื่องราวสุดแปลกเหนือธรรมชาติที่แตกต่างของแต่ละชิ้นไป จนทำให้มีเหล่าบรรดานักเสี่ยงโชคเดินทางมาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย หุ่นปั้นเหล่านี้คืออะไร และสุสานหุ่นปั้นมาจากไหน? หากจะเล่าถึงความเป็นมาของสุสานหุ่นปั้นแห่งนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อนใน ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม ที่เกิดจากพระอาจารย์ซ่วน ปัญญาธโร หรือหลวงพ่อซ่วน อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าลาดใต้ เป็นพระเกจิที่เลื่องชื่อในด้าน วิชาไสยเวทและพุทธคุณ โดยเฉพาะในเรื่อง เครื่องรางของขลัง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือ ปลัดขิก ที่เชื่อว่ามีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่างสูง นอกจากนี้ พระอาจารย์ซ่วนยังมีฝีมือในการสร้าง หุ่นปั้น ที่มักใช้ในพิธีกรรมเพื่อเสริมสิริมงคลหรือสะเดาะเคราะห์ การปั้นหุ่นของท่านเป็นที่ยอมรับว่าเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณและศิลปะ ทำให้ท่านได้รับความศรัทธาจากผู้คนหลากหลายอาชีพ ทั้งบุคคลทั่วไป นักการเมือง และคนในวงการบันเทิง ในช่วงที่พระอาจารย์ซ่วนยังมีชีวิต ท่านได้สร้างหุ่นปั้นหลากหลายรูปแบบ […]

Read More

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดต่อเรา
ปูนปั้นช่างบรรจง รับปั้นรูปสัตว์ต่างๆ
ไก่ปูนปั้น ช้าง ม้า วัว ควาย ช้างทรง ม้าทรง ราคาถูกสั่งได้สอบถามก่อนได้ครับ
ติดต่อเราติดต่อเราFacebookติดต่อเรา
สถานที่ตั้งหน้าร้าน...
ร้านตั้งอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านนนท์ณิชาบางใหญ่ 2 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี