ศาลพระภูมิ สิ่งศักดิ์สิทธิ์กับความเชื่อที่อยู่คู่กระแสเวลาคนไทย

ศาลพระภูมิ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งความเชื่อ แล้วความน่านับถือ ศาลนับเป็นสิ่งที่เหล่าคนไทยกราบไหว้บูชามาอย่างช้านาน จุดเริ่มต้นของศาลคือความเชื่อของคนไทยในอดีตที่ว่าทุกที่ที่เราอยู่ ไม่ว่าจะบ้าน ป่า เขา แม่น้ำหรือน้ำตก ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่แบบไหน ล้วนแต่มีสิ่งที่เรียกว่าผีอยู่ทุกที่ ผีมีทั้งดีและร้าย แบ่งกันตามความเชื่อ ความกลัว ความศรัทธา บาปบุญคุณโทษของมนุษย์ ซึ่งในอดีตกาลยังไม่มีศาลให้คนกราบไหว้บูชา แต่คนกราบไหว้บูชาผีประจำพื้นที่ เพื่อให้คุ้มครอง และดูแลเวลาไปในสถานที่ต่าง ๆ

 เมื่อกระแสเวลาเดินคนเริ่มปรับความเชื่อเพื่อให้เข้ากับความคิดที่ต้องการที่ยึดเหนี่ยวเหนี่ยวทางจิตใจมากขึ้น เริ่มมีการตั้งศาล ทั้งศาลเจ้าที่ สำหรับเหล่าผี วิญญาณที่เป็นคนในเครือญาติ ไม่ว่าจะเป็น ปู่ย่า ตายาย และบรรพบุรุษ หรือศาลพระภูมิ ที่ทุกครั้งมีสร้างบ้านเรือนขึ้นมาใหม่ และอยากให้ผี (ทางที่ดี) ที่อยู่ในบริเวณนั้นคอยปกปักรักษา คอยดูแลเรา และให้พรความสุขต่าง ๆ ไม่ว่าจะร่างกายแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง หรือชีวิตที่สงบตลอดการอยู่

เมื่อความเชื่อในศาสนาพุทธกับฮินดูเริ่มผสมรวมกันจนเริ่มมีการเปลี่ยนชื่อผี (ทางที่ดี) ของศาลพระภูมิเป็น “พระภูมิ” เพราะถึงจะนับเป็นผีเหมือนกัน แต่ก็เป็นผีระดับชั้นสูง อีกทั้งบางภูมิภาคก็มีความเชื่อว่า พระภูมิไม่ใช่ผีธรรมดา หากแต่เป็นเทวดาที่คอยช่วยทำหน้าที่ดูแลรักษาสิ่งต่าง ๆ และมีเรื่องเล่าถึงกษัตริย์ท้าวทศราช มีมเหสีชื่อพระนางสันทาทุกข์ ครอบครองกรุงพลี มีโอรส 9 พระองค์ โดยทั้ง 9 พระองค์ถูกแบ่งตามพื้นที่ มีดังนี้

  1. พระชัยมงคล รักษาบ้านเรือน ร้านค้า
  2. พระนครราช รักษาประตูเมือง ป้อม และค่าย
  3. พระเทเพน รักษาคอกสัตว์ โรงช้างม้า วัวควาย
  4. พระชัยศพณ์ รักษาที่เก็บข้าว เสบียงคลัง
  5. พระคนธรรพ์ รักษาเรือนหอคู่รัก
  6. พระธรรมโหรา รักษาทุ่งนา ไร่พืชต่าง ๆ รวมไปถึง ลานป่าเขา
  7. พระเทวเถร รักษา วัดอารม วิหารต่าง ๆ
  8. พระธรรมิกราช รักษาอุทยานและพื้นที่ส่วนผลไม้
  9. พระทาษธารา รักษาพื้นที่เป็นน้ำ ไม่ว่าจะเป้น หนอง คลอง บึงและแม่น้ำ

ซึ่งการสร้างศาลจะถูกสร้างตามพื้นที่ดังกล่าวว่าเป็นพื้นที่แบบไหน เป็นบ้านเรือน จะเป็นพระชัยมงคล เป็นต้น และปัจจุบันมักถูกสร้างคู่กับบ้านเรือนคนไทยมากกว่า อีกความโดดเด่นของศาลพระภูมิที่เป็นเอกลักษณ์เลยคือมี “เสาหนึ่งเดียว” ซึ่งแตกต่างกับศาลเจ้าที่ ที่เปรียบเสมือนบ้านผีเรือนธรรมดาที่มี 4 เสา

การตั้งศาลพระภูมิ

การตั้งศาลพระภูมิต้องตั้งอย่างไร

ศาลพระภูมิ มักจะถูกสร้างต่อเมื่อมีการก่อสร้างพื้นที่ต่าง ๆ แต่ในปัจจุบันผู้คนนิยมสร้างศาลเมื่อมีการสร้างบ้านเรือนขึ้นมาใหม่ เพื่อคุ้มครองดูแลคนที่อยู่อาศัย ให้มีความสุข สงบ ร่างกายแข็งแรงและร่ำรวยเงินทอง ซึ่งการตั้งศาลต้องรู้ว่าตรงไหนตั้งได้ ตรงไหนตั้งไม่ได้ ไม่งั้นจะถือว่าเป็นการไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และอาจนำมาสู่ความโชคร้ายได้ เพราะฉะนั้นเราจะมองบอกว่าการตั้งศาลพระภูมิควรตั้งที่ไหน และฤกษ์งามยามดีของการตั้งศาล

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนการตั้งศาลพระภูมิ

ขั้นตอนแรกมาคือการพูนดินให้สูง 1 คืบเกลี่ยดินด้วยมือและทำให้แน่น ห้ามใช้เท้าโดยเด็ดขาด และเตรียมน้ำมนต์ไว้พรมบริเวณพื้นดินเพื่อขับไล่ภูติผีปีสาจ ผีร้ายหรือสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ให้หายไป

จุดที่เหมาะในการตั้งศาลบริเวณบ้านเรือน

  1. ควรเป็นพื้นที่บริเวณผืนดิน ห้ามตั้งบริเวณเดียวกับพื้นของตัวบ้าน แต่ถ้าหากไม่มีพื้นที่ที่เป็นผืนดิน ก็สามารถทำการตั้งศาลบนชั้นดาดฟ้าได้ (แบบที่เรามักเห็นกับตามตึก)
  2. จุดที่ตั้งศาลต้องไม่ถูกเงาของตัวบ้าน
  3. ที่ตั้งของศาลไม่ควรอยู่ใกล้บริเวณห้องน้ำ และอย่าให้ศาลหันหน้าเข้าบริเวณห้องน้ำ
  4. ตั้งศาลให้อยู่ใกล้กับตัวบ้าน และไม่ควรตั้งศาลหันหน้ากับประตูบ้าน
  5. ความสูงของศาลพระภูมิควรอยู่เหนือระดับสายตาของเจ้าของบ้านไปเล็กน้อย

ทิศมงคลของการตั้งศาลพระภูมิ

  • ทิศที่เป็นมงคลกับการตั้งศาลมี 3 ทิศ ได้แก่ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันออกเฉียงใต้ หากตั้งศาลเข้าสู่ทิศเหล่านี้ มีความเชื่อว่าบ้านจะมีความเจริญรุ่งเรืองตลอดการอยู่
  • ส่วนทิศที่เป็นต้องห้ามในการตั้งศาลพระภูมิเลยคือ ทิศตะวันตก และทิศใต้ ที่เชื่อว่าเป็นทิศของผีสางนางร้าย

วันต้องห้ามของการตั้งศาลพระภูมิ

แน่นอนว่าเมื่อมีทิศต้องห้ามแล้ว วันตั้งศาลก็ต้องมีวันต้องห้ามเช่นกัน โดยวันต้องห้ามในการตั้งศาลจะแบ่งไปตามเดือน ดังนี้

  • เดือนมกราคม วันต้องห้ามคือ วันพุธ และวันศุกร์
  • เดือนกุมภาพันธ์ วันต้องห้ามคือ วันอังคาร
  • เดือนมีนาคม วันต้องห้ามคือ วันจันทร์
  • เดือนเมษายน วันต้องห้ามคือ วันพฤหัสบดี และวันเสาร์
  • เดือนพฤษภาคม วันต้องห้ามคือ วันพุธ และวันศุกร์
  • เดือนมิถุนายม วันต้องห้ามคือ วันอังคาร
  • เดือนกรกฏาคม วันต้องห้ามคือ วันจันทร์
  • เดือนสิงหาคม วันต้องห้ามคือ วันพฤหัสบดี และวันเสาร์
  • เดือนกันยายน วันต้องห้ามคือ วันพุธ และวันศุกร์
  • เดือนตุลาคม วันต้องห้ามคือ วันอังคาร
  • เดือนพฤศจิกายน วันต้องห้ามคือ วันจันทร์
  • เดือนธันวาคม วันต้องห้ามคือ วันพฤหัสบดี และวันเสาร์

สรุป การตั้ง ศาลพระภูมิ

สำหรับการตั้งศาลพระภูมิขึ้นมา ควรหาผู้ประกอบพิธีกรรมการตั้งศาลที่ดีด้วย ควรจะเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรม ถือศีลกินเจ ทำบุญทำทานประจำ มีความซื่อสัตย์สุจริต และยุติธรรม เพื่อทำให้การตั้งศาลเกิดผลที่ดี ส่วนของในการประกอบพิธีนั้นขึ้นอยู่กับผู้ประกอบพิธีด้วยเช่นกัน

แรกเริ่มเดิมช่วงกระแสเวลาของผู้คนในอดีตค่อย ๆ สั่งสมความไม่รู้ ความกลัว ของผู้คน จนเกิดเป็นความเชื่อเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้คนอยู่รอดได้ และศาลพระภูมิก็เช่นกัน เป็นเหมือนดั่งความเชื่อ และเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจเพื่อสร้างความสบายใจของผู้อยู่อาศัยตามบ้านเรือน สุดท้ายแล้วอาจกล่าวได้ว่าความเชื่อเรื่องภูติผี สิ่งศักดิ์สิทธ์ มีอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นเหมือนดั่งวัฒนธรรม จารีตประเพณีอันดีงาม และขาดไปไม่ได้สำหรับคนไทยแล้ว

Relate Post

10/02/2025
ศิลปะปูนปั้น ภูมิปัญญาช่างฝีมือไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

งานปูนปั้น หรือศิลปะปูนปั้น เป็นหนึ่งในงานศิลปะจากช่างฝีมือไทยที่ได้สืบทอดกันมานานกว่าร้อยปี และถือว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่าทางศิลปวัฒนธรรมของช่างไทยอีกด้วย งานปูนปั้นของไทยนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีความเชื่อมโยงทั้งในด้านวัฒนธรรม ประเพณี ของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งศิลปะปูนปั้นในไทย ยังมีบทบาทที่สำคัญในงานสถาปัตยกรรม เกี่ยวข้องกับเรื่องของศาสนา และความเชื่ออีกด้วย โดยแสดงออกผ่านลวดลายที่งดงาม ที่สามารถเห็นได้ในวัด สถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธ ซึ่งปัจจุบันนี้งานปูนปั้นหลาย ๆ งานถูกพัฒนามาเพื่อใช้ประดับตกแต่ง มีการใช้ปูนที่ต่างจากในอดีต เน้นการใช้งานเพื่อความสวยงาม แต่ก็ยังมีงานปูนปั้นที่ยึดโยงกับความเชื่อของคนไทยในปัจจุบันอยู่บ้าง อย่างปูนปั้นรูปสัตว์ต่าง ๆ ที่พบเจอได้ตามศาล สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นงานปูนปั้นอีกรูปแบบที่ถูกพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัย เรื่องราวในอดีต ความเป็นมาเกี่ยวกับศิลปะปูนปั้น ศิลปะปูนปั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่แสดงถึงความสามารถในการสร้างสรรค์งานศิลป์ของมนุษย์ที่ผสมผสานระหว่างความงามและประโยชน์ใช้สอย โดยการปั้นปูนมีจุดกำเนิดมาจากยุคโบราณที่มนุษย์เริ่มรู้จักใช้วัสดุจากธรรมชาติเพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างและเครื่องประดับตกแต่ง ในประเทศไทย ศิลปะปูนปั้นมีบทบาทสำคัญอย่างมากในงานสถาปัตยกรรมของศาสนา โดยเฉพาะวัดและโบราณสถาน สำหรับงานปูนปั้นในอดีตมีการผสมปูนขาว ทราย และน้ำก่อนที่จะปั้นขึ้นรูปหรือแกะสลักให้เป็นรูปร่างตามต้องการ ในประเทศไทย ศิลปะปูนปั้นเริ่มมีบทบาทมาตั้งแต่ยุคสุโขทัย โดยส่วนใหญ่นิยมสร้างเป็นองค์พระพุทธรูป เจดีย์ หรือเครื่องตกแต่งวัด เช่น บันแถลง ซุ้มประตู หรือหน้าบัน ในยุคต่อมา โดยเฉพาะในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ การปั้นปูนถูกพัฒนาให้มีรายละเอียดที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น ลวดลายไทยพรรณพฤกษา รูปสัตว์ในวรรณคดี และลวดลายที่สะท้อนถึงความเชื่อในศาสนาพุทธ โดยงานศิลปะปูนปั้นของช่างฝีมือไทยยังแบ่งออกได้หลายสกุล เช่น สกุลช่างเมืองเพชร […]

Read More
03/02/2025
ศิลปะลวดลายปูนปั้น และไอเดียการตกแต่งเพิ่มเอกลักษณ์ให้พื้นที่

ลวดลายปูนปั้นไม่ได้เป็นแค่การศิลปะที่ไว้ตกแต่งเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่มันยังเป็นศิลปะที่บ่งบอกถึงเรื่องราว วิถีชีวิต และความเชื่อถือของผู้คนในยุคต่าง ๆ บนผลงานปั้น ซึ่งในปัจจุบันมีลวดลายการทำต่าง ๆ ที่ไม่ได้จำกัดแค่การตกแต่งวัดหรือสถานที่ทางศาสนา แต่ยังใช้ในสถานที่ต่าง ๆ ด้วย เช่น บ้าน สวน ร้านค้า หรือโรงแรม เพื่อเพิ่มสีสันและเสน่ห์ให้กับสถานที่นั้น ๆ หากคุณกำลังสนใจลวดลายบนผลงานปูนปั้น เราจะพาคุณสำรวจไอเดียสุดว้าว พร้อมเคล็ดลับการเลือกแบบที่จะเปลี่ยนพื้นที่ธรรมดาให้กลายเป็นพื้นที่ที่มีเสน่ห์ ประวัติศาสตร์ของลวดลายปูนปั้น ลวดลายปูนปั้น ถือเป็นหนึ่งในงานศิลปะที่สะท้อนถึงความประณีต ความคิดสร้างสรรค์ และวิถีชีวิตของผู้คนในยุคสมัยต่าง ๆ จากฝีมือของช่าง โดยลวดลายเหล่านี้เกิดจากการแกะสลักหรือปั้นปูนที่มีลวดลายต่าง ๆ เช่น ดอกไม้ ใบไม้ สิ่งมีชีวิต และอื่น ๆ ซึ่งแต่ละชิ้นงานล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้พื้นที่รอบข้างโดดเด่นที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ยุคโบราณ ในประเทศไทยลวดลายของงานปูนปั้นก็มีจุดเริ่มต้นจากการใช้ประดับวัดและโบราณสถาน เช่น ลายกระหนกในโบสถ์และรอบเจดีย์ ซึ่งเป็นลายที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะขอมและอินเดีย ในขณะเดียวกัน ศิลปะลายปูนปั้นยังปรากฎในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ซึ่งเราสามารถแบ่งประเภทลวดลายได้ ดังนี้ ลวดลายปูนปั้นเชิงธรรมชาติ เสน่ห์ของความเรียบง่ายที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ลวดลายธรรมชาติ เป็นหนึ่งในลวดลายปูนปั้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยความอ่อนช้อยและความกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมที่สร้างความรู้สึกสงบและผ่อนคลายให้กับผู้พบเห็น ลวดลายเหล่านี้มักมีแรงบันดาลใจจากธรรมชาติรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นพืชพรรณ ดอกไม้ หรือสัตว์ป่า […]

Read More
06/01/2025
ควายไทย ความเชื่อ และศิลปะไทย ในมุมมองผ่านงานปูนปั้น

สัตว์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมือง และอยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทยมาอย่างยาวนาน คงหนีไม่พ้น “ควายไทย” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มี 4 ขา มีเขา สีดำ ซึ่งเป็นสัตว์ที่เรียกได้ว่าช่วยสร้างบ้านเมืองให้มีความอุดมสมบูรณ์ คนไทยเราใช้ประโยชน์จากควายมาอย่างมากมาย จนเกิดเป็นวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และความเชื่อเกี่ยวกับควายอยู่เป็นจำนวนมาก ในหลาย ๆ พื้นที่ไม่ได้เลี้ยงควายเหมือนกับสัตว์ในฟาร์มทั่ว ๆ ไป แต่ปฏิบัติกับควายเหมือนกับสัตว์เลี้ยง หรือสมาชิกในครอบครัว ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ของควาย และผู้คนที่มีมาตั้งแต่ในอดีต ที่ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีและความสะดวกสบายต่าง ๆ ได้เข้ามาแทนที่การใช้ควายในการทำนา ทำการเกษตรต่าง ๆ แต่ความเชื่อ ความผูกพันเกี่ยวกับควายนั้นยังคงอยู่ ความเชื่อของควายในสังคมไทยนั้นมีอยู่หลากหลายแง่มุม สำหรับความเชื่อทางศาสนาว่ากันว่าทำบุญด้วยการปล่อยควายจะทำให้ได้บุญกุศลอันยิ่งใหญ่ หรือความเชื่อเกี่ยวกับควายในทางเกษตรกรรมก็ช่วยในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ ความเป็นสิริมงคลในการเพาะปลูก หรือจะเป็นความเชื่อในเรื่องของฤกษ์ยาม ที่ให้ความหมายถึงความอดทน มั่นคง และความเหมาะสม นอกจากนี้แล้ว ความเชื่อเกี่ยวกับควายไทย ยังรวมไปถึงลักษณะของควายที่มีความสวยงาม ถือว่าเป็นมงคล หรือที่เรียกว่าพญาควายตามตำราโบราณ คือ ปากคาบแก้ว หางเป็นดอก ขาด่างทั้ง 4 ขา และมีเขายาวสวยงาม ขนเรียบ ผิวเป็นมัน รวมทั้งจุดขวัญตามร่างกายต่าง ๆ […]

Read More

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดต่อเรา
ปูนปั้นช่างบรรจง รับปั้นรูปสัตว์ต่างๆ
ไก่ปูนปั้น ช้าง ม้า วัว ควาย ช้างทรง ม้าทรง ราคาถูกสั่งได้สอบถามก่อนได้ครับ
Line ID : 0819091660
add-line-icon
สถานที่ตั้งหน้าร้าน...
ร้านตั้งอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านนนท์ณิชาบางใหญ่ 2 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี