ไม่ว่าจะสถานที่ไหน ๆ ของประเทศไทยเราล้วนต้องมีเรื่องเล่าหรือความเชื่อบางอย่างที่ผูกติดจากคนรุ่นก่อนมาเสมอ และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่ทุกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือสถานที่ที่มีความเชื่อเหล่านี้ มักมีสิ่งบูชาทั้ง พระพุทธรูป หรือปูนปั้นรูปทรงสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ม้าลาย ช้าง ไก่ หรือเสือ มาวางบูชาอยู่ด้วยเสมอ และหนึ่งสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสกลนคร และยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งกับ รูปปั้นเสือ ณ โค้งปิ้งงู โค้งที่มีการวางปูนปั้นเสืออยู่มากมายหลายร้อยตัว และไม่ว่าใครก็ตามที่ขับผ่านจะต้องบีบแตรกราบไหว้อยู่เสมอ
โค้งปิ้งงู อยู่ในโซนพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูพาน จังหวัดสกลนคร โดยเป็นเส้นทางขึ้นเขาภูพานที่มีลักษณะโค้งลัดเลาะและโค้งที่คดเคี้ยวเป็นอย่างมาก หากมองจากมุมสูงแล้วจะดูเหมือนงูกำลังถูกปิ้งแล้วตัวคดเคี้ยงไปมา คำถามถัดมาคือ ทำไมโค้งปิ้งงูถึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ว่าใครก็ตามขับขี่ผ่านมาต้องบีบแตรกราบไหวกันเสมอ ด้วยความเป็นโค้งที่มีความคดเคี้ยวสูง และเป็นทางลาดชันภูเขาของพื้นที่อุทยาน การเดินทางสัญจรในบริเวณนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังสูงอย่างมาก ประกอบกับพื้นที่บริเวณโค้งดังกล่าวมีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง พร้อมกับรูปปั้นเสือวางบูชาอยู่มากมายหลายร้อยตัว จึงทำให้ต้องบีบแตรแทนการกราบไหว้ เพื่อขอให้เดินทางปลอดภัย เพราะหากยกมือไหว้แบบปกติอาจเกิดอุบัติเหตุได้ และด้วยเหตุนี้โค้งนี้จึงถูกผู้คนแถวนั้นเรียกกันว่า “ศาลเจ้าพ่อเสือ” และทำให้โค้งปิ้งงูกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนท้องถิ่น และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสกลนคร ที่ไม่ว่าใครที่ผ่านทางมาก็ต้องบีบแตรกราบไหว้กันเพื่อขอให้เดินทางปลอดภัยเสมอ
ทำไมถึงมีรูปปั้นเสืออยู่ที่โค้งปิ้งงู
โค้งปิ้งงู เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์แห่งหนึ่งได้ เพราะการมีอยู่ของพระพุทธรูปที่มีนามว่า “พระพุทธลีลามิ่งมงคลสกลสันติสุขศรีสุวรรณบรรพต” แต่พระพุทธรูปองค์ดังกล่าว ไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นคนเอามาวางไว้ และวางไว้ตั้งแต่เมื่อไร บวกกับการเดินทางที่ยากและอันตราย จากโค้งอันคดเคี้ยว จึงมีการสันนิฐานว่า คนพื้นที่บริเวณนั้นในอดีตได้มากราบไหว้พระพุทธรูปองค์นี้อยู่เสมอ และมักมีการนำรูปปั้นเสือมาถวาย เพื่อขอให้การเดินทางผ่านพื้นที่โค้งป่านี้เป็นไปได้อย่างปลอดภัย
อย่าลืมว่าพื้นที่บริเวณ โค้งปิ้งงูในสมัยก่อนนั้นไม่ได้เป็นเส้นทางที่เรียบแบบปัจจุบัน เส้นทางนั้นมีป่าไม้หนาอยู่เต็มไปหมด ทำให้อาจจะมีสัตว์ดุร้ายอย่างเสือ หรือสิ่งชั่วร้ายจำพวกภูติผีอยู่ การมีตัวตนของสิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้เดินทางผ่านต้องหวาดระแวงและกลัวกันเป็นอย่างมาก เมื่อพวกเขาได้พบพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว พวกเขาเกิดความรู้สึก และเชื่อว่าการกราบไหว้จะช่วยให้พวกเขารอดจากเดินทางผ่านบริเวณป่านี้ไปได้ และการนำรูปปั้นเสือมาถวาย เป็นเหมือนเครื่องรางที่จะทำให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้จึงอาจทำให้บริเวณพื้นที่โค้งปิ้งงู นั้นมีรูปปั้นเสืออยู่ด้วยมาตลอดตั้งแต่อดีต และกาลเวลาก็ได้ล่วงผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีการทำถนนที่เป็นเส้นทางขึ้นเขาภูพาน ผู้คนที่เดินทางผ่านมา ได้พบเห็นทั้งพระพุทธรูปและรูปปั้นเสือ ต่างก็เชื่อว่าพื้นที่นี้มีความศักดิ์สิทธ์เป็นอย่างมาก และเรียกกันว่า “ศาลเจ้าพ่อเสือ” จากการมีปูนปั้นเสืออยู่ นอกจากนี้ผู้คนมักมากราบไหว้บูชาทุกครั้งที่ผ่านทาง หรือมาบนบานขอพร และเมื่อพวกเขาต้องแก้บน ของแก้บนที่จะนึกออกได้ก็ตามชื่อศาล นั้นคือปูนปั้นเสือ ที่มีอยู่ดั้งเดิมคู่กับพระพุทธรูป ท้ายสุดนี้จึงทำให้ที่ โค้งปิ้งงู มีรูปปั้นเสืออยู่มากมายหลายร้อยตัวนั้นเอง
รูปปั้นเสือ กับความเชื่อ
เคยสงสัยกันไหมว่าทำไม โค้งปิ้งงูถึงมีแต่รูปปั้นเสือ ทำไมไม่มีรูปปั้นสัตว์อย่างอื่นอยู่เลย อย่างแรกที่ต้องเข้าใจก่อนเลยคือ รูปปั้นเสือนั้นมีความเชื่อที่ว่า สามารถป้องกันจากอันตรายและสิ่งชั่วร้ายในบริเวณพื้นที่นั้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณป่าเขาที่ดูน่าอันตราย ไม่ว่าจะเป็น ตามทางเดินป่า ทางเข้าไปป่า หรือทางเดินขึ้นเขา โดยยังมีความเชื่ออีกอย่างหนึ่งที่ว่าหากนำไปวางที่บ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ จะช่วยให้รู้สึกปลอดภัยได้มากขึ้น นอกจากนี้รูปปั้นเสือ นั้นยังมีเป็นเหมือนดั่งสัญลักษณ์ของ การแสดงพลังอำนาจ ความกล้าหาญ ความแข็งแกร่งทั้งภายในและภายนอก ด้วยเหตุนี้ใครก็ตามที่มาบนบานเกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพร่างกาย หรือตำแหน่งหน้าที่การงาน มักจะนำรูปปั้นเสือมาแก้บนอยู่ด้วยเสมอ
บทสรุป รูปปั้นเสือ ณ โค้งปิ้งงู
เราอาจกล่าวได้ว่า เหตุผลหนึ่งที่ โค้งปิ้งงู มีรูปปั้นเสืออยู่มากมายนั้น ก็เพื่อเป็นการกราบไหว้บูชาพระพุทธรูป และยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยจากการเดินทาง เพราะโค้งปิ้งงูนี้เป็นเส้นทางโค้งที่อันตรายเป็นอย่างมาก หากประมาทหรือไม่ระมัดระวังให้ดี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้โค้งปิ้งงูกลายเป็นสถานที่มีความเชื่อว่า ใครก็ตามที่เดินทางผ่านโค้งนี้ จะต้องแวะมากราบไหว้ เพื่อขอให้ตนเองเดินทางได้อย่างปลอดภัย ไม่ประสบอุบัติเหตุใด ๆ และยังมีศาลเจ้าพ่อเสือ ที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ว่าใครต้องการบนบานขออะไร สามารถแวะมาขอได้ และทุกครั้งที่มาแก้บน ต้องแก้บนด้วยรูปปั้นเสือเสมอ