ความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคนั้นอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ยังเกี่ยวโยงไปถึงความเชื่อในพระพุทธศาสนาอีกด้วย โดยเรามักจะเห็น “รูปปั้นพญานาค” อยู่ตามวัดวาอารามกันโดยทั่วไป ซึ่งความเชื่อเรื่องนาค หรือพญานาคในไทยนั้นเริ่มมีมาตั้งแต่ในสมัยสุโขทัย โดยมีปรากฏอยู่ในวรรณคดีเรื่อง ไตรภูมิพระร่วง มีลักษณะที่เด่นชัดคือคล้ายงูใหญ่ มีเกล็ดหลายสี และมีหงอน ความเชื่อตามพระพุทธศาสนานาคเป็นสัตว์เดรัจฉาน ที่ไม่สามารถบวชเป็นพระภิกษุได้ แต่นาคก็ยังเป็นสิ่งที่ปรากฏให้เห็นในศิลปกรรม และสถาปัตยกรรมของไทยที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา โดยรูปปั้นพญานาคที่บันไดพระอุโบสถเป็นเหมือนพาหนะที่ใช้ข้ามทะเลแห่งวัฏสงสาร และยังมีคตินิยมที่ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ ให้ความรู้สึกสงบร่มเย็นนั่นเอง
ความเชื่อของ รูปปั้นพญานาค ในแง่มุมต่าง ๆ
ดังที่ทราบกันแล้วว่าความเชื่อ และความศรัทธาของคนไทยเกี่ยวกับพญานาค รูปปั้นพญานาค นั้นมีมาอย่างยาวนาน ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ก็ยังสามารถแยกออกไปได้อีกหลากหลายความเชื่อ ทั้งตามพื้นที่ หรือในแง่มุมต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความศรัทธา หากพูดถึงตำนาน หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับพญานาคในวัฒนธรรมไทย ที่ทำให้เกิดความเชื่อ ความศรัทธาก็คงไม่พ้นตำนานเรื่องบั้งไฟพญานาค ที่ปรากฏลูกไฟลอยขึ้นบริเวณแม่น้ำโขงในช่วงออกพรรษา หรือจะเป็นตำนานเกี่ยวกับถ้ำเมืองบาดาลใต้แม่น้ำโขง อันเป็นที่อยู่ของพญานาค เป็นต้น
ผู้คนมักกราบไหว้ และขอพรจากรูปปั้นพญานาคเพื่อความเป็นสิริมงคล โชคลาภ ความสำเร็จในชีวิต ซึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันโด่งดังในตอนนี้อยู่ที่ ป่าคำชะโนด หรือวัดศิริสุทโธ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีความเชื่อว่าพื้นที่แห่งนี้ถูกปกครองด้วย พญานาคราชปู่ศรีสุทโธ และ องค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี มีความเชื่อว่าหากมาสักการะที่นี่ จะนำมาซึ่งโชคลาภ เงินทอง และประสบความสำเร็จ รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาขอหวยอีกด้วย จนทำให้มีผู้เข้าไปกราบไหว้ สักการะกันอย่างล้นหลามในทุก ๆ วัน ส่วนในเรื่องของความศรัทธาของคนไทยที่มีต่อพญานาค สามารถแบ่งออกเป็น 2 แง่มุมง่าย ๆ ดังนี้
- พญานาค ในแง่มุมผู้พิทักษ์ และปกป้อง
ในความเชื่อของคนไทย พญานาคถูกมองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตกึ่งเทพ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังอำนาจ สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ โดยทำหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองจากสิ่งชั่วร้าย เชื่อว่าพญานาคนั้นอาศัยอยู่ในแม่น้ำ ลำธาร โดยเฉพาะแม่น้ำโขง และพื้นที่ใต้ดิน ในถ้ำตามป่าต่าง ๆ คอยทำหน้าที่ดูแล ปกป้องรักษาธรรมชาติ ปกป้องมนุษย์จากภัยอันตรายทั้งปวง และพญานาคยังทำหน้าที่ปกป้องสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เราจึงได้เห็นรูปปั้นของพญานาคตามสถานที่เหล่านี้ไม่เพียงแค่วัด เช่น พระราชวัง อนุสาวรีย์ รวมถึงการปกป้องตัวบุคคล ซึ่งในปัจจุบันนี้มีเครื่องรางที่เกี่ยวข้องกับพญานาคไว้บูชาเพื่อเสริมโชคลาภ ป้องกันอันตรายอยู่มากมาย
- พญานาค สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์
พญานาคนั้นมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับน้ำ หรือแม่น้ำ ซึ่งน้ำนั้นเชื่อมโยงกับชีวิต ความอุดมสมบูรณ์ หลาย ๆ พื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคอีสาน มีความเชื่อว่าพญานาคเป็นเจ้าแห่งน้ำ ทำหน้าที่ควบคุมการไหลของแม่น้ำ ลำธาร แหล่งน้ำต่าง ๆ ทั้งบนดินและใต้ดิน ในหลาย ๆ พื้นที่จึงมีการจัดพิธีกรรมในการบูชาพญานาคก่อนช่วงฤดูเพาะปลูก เพื่อให้ฝนต้องตามฤดูกาล มีน้ำมากเพียงพอให้ใช้สำหรับการเกษตรกรรม ให้มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งยังเชื่อมโยงกับพิธีกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น บั้งไฟพญานาค นอกจากความอุดมสมบูรณ์แล้ว พญานาคยังเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ที่นำมาซึ่งความร่ำรวย การประสบความสำเร็จในการทำมาค้าขาย
ความเชื่อเรื่องพญานาคในฐานะผู้พิทักษ์และสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์นี้ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างคนไทยกับธรรมชาติและสิ่งเหนือธรรมชาติ สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาในการดำรงชีวิตที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและการให้ความสำคัญกับความสมดุลทางธรรมชาติ
ศิลปกรรม และสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวกับ รูปปั้นพญานาค
พญานาคมีบทบาทสำคัญในศิลปะและสถาปัตยกรรมของไทย รูปปั้นพญานาค มีให้เห็นกันได้ตั้งแต่ศิลปะตามท้องถิ่น ไปจนถึงสถาปัตยกรรมชั้นสูงที่มีความสวยงาม ประณีต โดยเฉพาะในวัด อาคารทางศาสนา และยังรวมไปถึงสถาบันกษัตริย์ โดยจะเห็นได้จากเรือพระที่นั่งในขบวนเรือพระราชพิธี ได้แก่ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ ซึ่งแสดงถึงความยิ่งใหญ่ คู่ควรกับสถาบันอันสูงส่ง โดยศิลปกรรม และสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับพญานาคที่เห็นกันอยู่ทั่วไป มีดังต่อไปนี้
- บันไดนาค เป็นบันไดทางขึ้นไปยังพระอุโบสถ หรือวิหาร โดยมีราวบันไดเป็นรูปพญานาค โดยให้พญานาคนั้นเป็นทางเชื่อม หรือพาหนะไปสู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
- หลังคานาค ชายคาของอาคารสถานที่ ที่ประดับด้วยลาดลายพญานาค โดยพบได้ที่หน้าบัน หลังคาพระอุโบสถ หรือวิหาร ซึ่งแสดงถึงการปกป้อง อวยพรจากเบื้องบน
- เสานาค เสาที่มีรูปปั้นพญานาคพันรอบ มักพบในวิหารหรือศาลาการเปรียญ สื่อถึงการรองรับและปกป้องโครงสร้างอาคาร เปรียบเสมือนพญานาคที่รองรับโลก
- รูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่ มักตั้งอยู่บริเวณทางเข้าวัด ริมแม่น้ำ หรือจุดสำคัญในชุมชน เป็นจุดศูนย์รวมการสักการะและขอพร แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของพญานาค
- ลวดลายประดับ ลายพญานาคที่ใช้ตกแต่งส่วนต่าง ๆ ของอาคาร เช่น ประตู หน้าต่าง เพดาน มีรูปแบบทั้งเป็นลายเส้น ลายนูนต่ำ นูนสูง ช่วยเสริมความงามและความศักดิ์สิทธิ์ให้กับสถานที่
- สะพานนาค สะพานที่มีราวสะพานเป็นรูปพญานาค มักพบในวัดหรือสวนสาธารณะ สื่อถึงการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ หรือระหว่างโลก
- ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ภาพวาดพญานาคที่มักเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวทางพุทธศาสนา โดยแสดงถึงบทบาทของพญานาคในพุทธประวัติหรือชาดก
- แท่นบูชาพญานาค แท่นหรือศาลเล็ก ๆ ที่มีรูปปั้นพญานาค มักพบในบริเวณวัดหรือศาล เพื่อใช้ในการสักการะบูชาพญานาค
ศิลปกรรม และสถาปัตยกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความงดงามทางสุนทรียศาสตร์ แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อ ค่านิยม และภูมิปัญญาของคนไทยที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน การใช้สัญลักษณ์พญานาคในงานศิลปะและสถาปัตยกรรมยังช่วยในการถ่ายทอดเรื่องราวและความเชื่อทางศาสนาให้เป็นรูปธรรม ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
บทสรุป รูปปั้นพญานาค ในสังคมไทย
รูปปั้นพญานาค ในสังคมไทยไม่เพียงแต่เป็นงานศิลปะหรือวัตถุทางความเชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์และภูมิปัญญาของคนไทย การดำรงอยู่ของความเชื่อและการปรากฏของปูนปั้น รูปปั้นพญานาคในสังคมไทยแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการผสมผสานระหว่างความเชื่อดั้งเดิม ศาสนา และความทันสมัย ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของวัฒนธรรมไทยที่ยังคงมีความสำคัญในปัจจุบันนี้