“ของแก้บน” ความเชื่อที่มาพร้อมกับการบนบาน ถือว่าเป็นสิ่งที่ยากจะลบเลือนไปจากสังคมไทย ตราบใดที่วาทกรรมอย่าง “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ยังคงส่งผลกับความเชื่อของคนในปัจจุบัน เพราะความเชื่อในสังคมไทยนั้นมีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ถ้าจะให้ปฏิเสธความเชื่อในสังคมไทยโดยยึดหลักเหตุผลอย่างเดียวคงต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะเป็นสิ่งที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมาตั้งแต่อดีต
จุดเริ่มต้นความเชื่อของมนุษย์เกิดจากความกลัวในสิ่งที่ตนเองไม่สามารถควบคุมได้ ตั้งแต่ฝนตก แดดออก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ประกอบกับในอดีตมนุษย์มีความซับซ้อนในการอธิบายน้อย และไม่มีองค์ความรู้ในการพัฒนาวิธีคิด จึงทำให้เกิดความคิดที่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอำนาจเหนือธรรมชาติ มีวิญญาณบางอย่างสถิตอยู่ จึงเป็นที่มาของการนับถือ บูชา อำนาจเหนือธรรมชาติ จนกลายเป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ จนพัฒนามาเป็นลัทธิ ความเชื่อ นำมาสู่การบูชา และบนบาน
แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป แต่การถ่ายทอดความเชื่อเรื่องการแก้บน และการบนบานยังไม่ได้หายไป เพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของยุคสมัย ที่คนสามารถเข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น มีการแชร์ มีการโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อออกไปอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นกระแสให้หลายคนเกิดความรู้สึกอยากลองทำตาม หนึ่งในนั้นก็คือการบนบาน และการแก้บนนั่นเอง
เปิดตำราพามู “ของแก้บน” ที่ควรรู้ สายมูไม่ควรพลาด!
การบนบาน เป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ทั้งจากข่าว หรือจากคนใกล้ตัว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการบนบานไปแล้ว จะต้องมี “ของแก้บน” ไว้สำหรับแก้บนด้วย ซึ่งการแก้บนนั้นมีอยู่หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การรำ หรือการถวายของแก้บน วันนี้ เราจึงจะพาคุณมาดูของแก้บนที่คนนิยมนำมาแก้บนจากการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่ามีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย!
- ไข่ต้ม ถือได้ว่าเป็นของที่นิยมนำมาแก้บนมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษกันเลยทีเดียว เนื่องจากไข่นั้นสามารถหาได้ง่าย ไม่แพง และยังมีความเชื่อที่ว่าไข่นั้นเป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต จึงนิยมนำไข่มาแก้บนนั่นเอง
- หัวหมู การที่นำหัวหมูมาแก้บนนั้นเกิดจากการที่ต้องการจำลองให้เหมือนการสังเวยหมูทั้งตัว เนื่องจากมีความเชื่อว่าหัวหมูนั้นมีพลังงานชีวิตที่สามารถนำมาแก้บนได้ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป คนไม่นิยมสังเวยชีวิตสัตว์ จึงนิยมนำรูปปั้นหมูมาใช้สำหรับแก้บนแทน
- รูปปั้นไก่ รูปปั้นไก่กลายมาเป็นของแก้บนที่คนนิยม เนื่องจากมีความเชื่อว่าคนสมัยก่อนนิยมตีไก่ ประกอบกับสมัยนี้ไม่นิยมฆ่าสัตว์เพื่อแก้บนกันแล้ว จึงกลายเป็นรูปปั้นไก่แก้บนแทน ซึ่งเราจะเห็นรูปปั้นไก่แก้บนได้ตามหน้าอนุสาวรีย์ ศาล และสถานที่สำคัญทุกแห่งที่เกี่ยวข้องกับพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องจากตามประวัติพระองค์ชื่นชอบการตีไก่เป็นงานอดิเรก หรือที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่คนนิยมเอารูปปั้นไก่ไปแก้บนเนื่องจากไอ้ไข่ชอบเลี้ยงไก่นั่นเอง
- ดอกไม้ ของแก้บนที่ใครหลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี นั่นก็คือการใช้ดอกไม้แก้บนนั่นเอง เนื่องจากดอกไม้เป็นตัวแทนของความเจริญงอกงาม เป็นพลังงานด้านบวก จึงนิยมนำมาถวายเป็นของแก้บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งดอกไม้ที่นิยมนำมาแก้บนก็มีด้วยกันหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ดอกกุหลาบ ดอกดาวเรือง และดอกบัว เป็นต้น
- รูปปั้นช้าง รูปปั้นช้างถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนนิยมนำมาแก้บน เนื่องจากตามความเชื่อแล้ว รูปปั้นช้างมีความหมายมงคลอย่างยิ่ง บ่งบอกถึงความมั่นคง ความเป็นสิริมงคล อำนาจ และบารมี รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ รูปปั้นช้างจึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งของแก้บนที่คนนิยมนำมาใช้แก้บนนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับตำราของแก้บนที่เราได้นำมาให้คุณอ่านกันในวันนี้ อย่างที่ได้บอกกันไปข้างต้นว่า การแก้บนนั้นมีวิธีที่หลากหลาย และใช้ของแก้บนที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับผู้บนบาน แต่ถึงแม้ว่าการบนบาน การแก้บน จะเป็นเรื่องของความเชื่อ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีอิทธิพลต่อจิตใจของผู้คนในยุคปัจจุบันกันมากเลยทีเดียว ฉะนั้น หากการบนบานทำขึ้นเพื่อให้เกิดความสบายใจ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวผู้กระทำ แม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องของความเชื่อก็ตาม
เตรียมของแก้บน..ตามรอย 9 สถานที่แก้บนยอดฮิตที่สายมูไม่ควรพลาด!
เมื่อรู้กันไปแล้วว่าของแก้บนที่นิยมนำมาแก้บนนั้นมีอะไรบ้าง ต่อไปเราจะพาคุณมารู้จักกับสถานที่แก้บนยอดฮิตที่คัดมาแล้วว่าใครไปก็ปัง มีโชค รับทรัพย์กันถ้วนหน้า ฉะนั้น เตรียมของแก้บนให้พร้อม แล้วตามเรามาดูพร้อมกันเลยว่าจะมีที่ไหนบ้าง!
- วัดหลวงพ่อโสธร
- เรื่องที่นิยมบน : การมีบุตร และโชคลาภ
- วิธีบน : จุดธูป 16 ดอก และพวงมาลัย
- วิธีแก้บน : ทำได้โดยการนำอาหารมาถวายท่าน หรืออาจจะใช้ทองคำเปลว 100 แผ่น และไข่ต้มก็ได้
- พระเจ้าตากสิน วงเวียนใหญ่
- เรื่องที่นิยมบน : การค้าขาย การเรียน การงาน หนี้สินจากการค้าขาย
- วิธีบน : ใช้ธูป 16 ดอก มาลัยดาวเรือง มาลัยมะลิดาวเรือง
- วิธีแก้บน : นำอาหารมาถวายท่าน
- ลานพระบรมรูปทรงม้า
- เรื่องที่นิยมบน : การเรียน
- วิธีบน : จุดธูป 16 ดอก พร้อมกุหลาบสีชมพู
- วิธีแก้บน : แก้บนด้วยน้ำมะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า ทองหยอด บรั่นดี ซิการ์ ข้าวคลุกกะปิ และกุหลาบชมพู
- ศาลหลักเมือง
- เรื่องที่นิยมบน : ความมั่นคงในหน้าที่การงาน
- วิธีบน : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ผ้าแพร 3 สี และดอกบัว
- วิธีแก้บน : ถวายพวงมาลัย หรือผูกผ้า 3 สี
- ศาลย่านาค วัดมหาบุศย์
- เรื่องที่นิยมบน : โชคลาภ ความรัก
- วิธีบน : จุดธูป 9 ดอก
- วิธีแก้บน : ถวายผ้าถุง พวงมาลัย และของเล่นเด็ก
- ท้าวมหาพรหมเอราวัณ
- เรื่องที่นิยมบน : ค้าขาย การงาน การเรียน
- วิธีบน : จุดธูป 12 ดอก ไหว้ท้าวมหาพรหมเอราวัณทั้ง 4 หน้า
- วิธีแก้บน : รำแก้บน
- ศาลเจ้าพ่อเสือ
- เรื่องที่นิยมบน : การค้าขาย เสริมวาสนาบารมี
- วิธีบน : ธูป 18 ดอก ปัก 6 กระถาง เทียนแดง 1 คู่ มาลัย 1 พวง หรือถวายเงินเติมน้ำมันตะเกียง
- วิธีแก้บน : แก้ตามคำกล่าวที่มีบอกไว้อยู่ในศาลเจ้าพ่อเสือ
- พระตรีมูรติ
- เรื่องที่นิยมบน : เกี่ยวกับความรัก
- วิธีบน : เทียนแดง 1 เล่ม ธูปแดง 9 ดอก ควรบนในช่วง 09.30-21.30 น.
- วิธีแก้บน : แก้บนด้วยน้ำผลไม้ กุหลาบแดง พวงมาลัยกุหลาบ และรูปปั้นช้าง
- กรมหลวงชุมพรฯ หรือเสร็จเตี่ย
- เรื่องที่นิยมบน : การเรียน
- วิธีบน : จุดธูป 19 ดอก และกุหลาบแดง
- วิธีแก้บน : ถวายกุหลาบแดง จุดประทัด หมากพลู และผลไม้
และนี่ก็เป็น 9 สถานที่แก้บนยอดฮิตที่ผู้คนนิยมไปบนบาน และขอพร หากใครที่ไม่ได้ต้องการจะบนบาน แต่อยากจะลองไปกราบไหว้ขอพรสักครั้งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เสียหาย แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าการ ขอพรจะช่วยให้รู้สึกสบายใจ แต่สิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามไปก็คือการพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวของเราเอง เพราะคงไม่มีพรไหนที่จะวิเศษ และเห็นผลเท่ากับการที่เราเป็นที่พึ่งให้กับตัวเราเอง ดั่งคำสอนที่เรามักจะได้ยินกันอยู่เสมอว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”