ติดต่อเราติดต่อเราFacebookติดต่อเรา

ช้างปูนปั้นในพิธีกรรมไทย บทบาทและความสำคัญในงานประเพณี

ช้างมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยมาอย่างยาวนาน ไม่เพียงแต่เป็นสัตว์คู่บารมีของกษัตริย์ไทยในสมัยโบราณ แต่ยังถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่และความศักดิ์สิทธิ์ จนทำให้มี ช้างปูนปั้น ในปัจจุบัน และยิ่งเป็นช้างเผือกแล้วละก็ถือได้ว่าเป็นสัตว์มงคลที่เชื่อว่ามีอำนาจบารมี ปกป้องบ้านเมืองและราชวงศ์เป็นอย่างมาก ในอดีตช้างถูกใช้ในสงคราม ร่วมปกป้องอาณาจักรไทยจากศัตรู และเป็นพาหนะที่แสดงถึงความสูงศักดิ์ของกษัตริย์

นอกจากบทบาททางการเมืองและการทหารแล้ว ช้างยังเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ในศาสนาพุทธ โดยปรากฏอยู่ในตำนานและเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า พระแม่ธรณี และเทพเจ้าในคติความเชื่อของชาวไทย การนำรูปปั้นช้างเข้ามาใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ หรือพิธีบวงสรวงจึงเป็นการเสริมสิริมงคล ให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองและปกป้องคุ้มครองผู้ที่เข้าร่วมพิธี

ความงามและความศักดิ์สิทธิ์ของช้างปูนปั้น ในวัฒนธรรมไทย

ความงามและความศักดิ์สิทธิ์ของช้างปูนปั้น ในวัฒนธรรมไทย

ศิลปะช้างปูนปั้นเป็นการสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างช้างและวัฒนธรรมไทย การสร้างสรรค์รูปปั้นช้างด้วยปูนปั้นไม่ใช่เพียงเพื่อความงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึงความเคารพและยกย่องสัตว์ที่มีบทบาทสำคัญในวิถีชีวิตและความเชื่อของคนไทย

ช่างปั้นในอดีตมักจะถ่ายทอดลักษณะของช้างออกมาอย่างละเอียดอ่อน ตั้งแต่ขนาด รูปร่าง ไปจนถึงการแสดงอารมณ์และบุคลิกของช้าง ผ่านท่าทางที่สง่างาม เช่น ช้างยืนหรือนั่งหมอบอยู่ในท่วงท่าที่มีความหมายทางศาสนาและพิธีกรรม โดยปูนปั้นช้างมักถูกใช้ในการตกแต่งสถานที่ทางศาสนา เช่น วัด โบสถ์ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อสื่อถึงการปกปักรักษาและป้องกันสิ่งชั่วร้าย

นอกจากนี้ ศิลปะการปั้นช้างยังสื่อถึงความยิ่งใหญ่ของไทยในประวัติศาสตร์ การใช้ช้างปูนปั้นในงานตกแต่งทางสถาปัตยกรรมจึงไม่เพียงแค่แสดงถึงทักษะทางศิลปะของช่างฝีมือไทย แต่ยังเป็นการเชิดชูสัตว์สัญลักษณ์แห่งชาติที่มีความผูกพันกับราชวงศ์ ศาสนา และประชาชนไทยมาอย่างยาวนาน

พลังแห่งช้างปูนปั้น ความสำคัญในงานบุญและประเพณีไทย

ช้างปูนปั้น มีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมไทยหลากหลายประเภท เนื่องจากช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรม เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจและความเป็นสิริมงคล การใช้ช้างปูนปั้นในพิธีกรรมจึงมีความเชื่อมโยงกับความศักดิ์สิทธิ์และสิริมงคลในหลากหลายบริบท นี่คือตัวอย่างของพิธีกรรมที่มีการใช้ช้างปูนปั้น:

1.พิธีบวงสรวงและพิธีกรรมทางศาสนา

  • ใน พิธีบวงสรวง หรือ พิธีบูชาศาลพระภูมิ และ ศาลปู่ตา ช้างปูนปั้นมักถูกใช้เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลให้กับสถานที่นั้น ๆ ชาวบ้านเชื่อว่าการมีรูปปั้นช้างในบริเวณศาลเจ้าหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จะช่วยปกป้องคุ้มครองและนำพาความอุดมสมบูรณ์และโชคลาภมาให้
  • ใน พิธีกรรมทางพุทธศาสนา เช่น การบูชาพระธาตุหรือการทำบุญประจำปี ช้างปูนปั้นที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาจะถูกนำมาใช้ในการตกแต่งวัดหรือบริเวณที่ประกอบพิธี เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลและแสดงถึงความเคารพต่อพุทธศาสนา

2.พิธีเฉลิมฉลองและราชพิธี

  • ใน พิธีเฉลิมฉลอง หรือ พิธีราชพิธี ที่เกี่ยวข้องกับการบูชาหรือการเฉลิมฉลองในระดับชาติ เช่น พิธีเฉลิมพระชนมพรรษา หรือพระราชพิธีสำคัญ รูปปั้นช้างมักถูกจัดวางเพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่และบารมีของพระมหากษัตริย์และราชวงศ์
  • การใช้ ช้างปูนปั้น ใน งานพระราชพิธี เป็นการสะท้อนถึงความศักดิ์สิทธิ์และบารมีของกษัตริย์ ช้างถือเป็นสัตว์คู่บารมีของกษัตริย์ไทย ดังนั้นจึงมีการนำรูปปั้นช้างมาตกแต่งพระเมรุมาศในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงหรือในพิธีราชาภิเษก

ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของช้างปูนปั้น ตามความเชื่อของไทย

ช้างปูนปั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศิลปะตกแต่งหรือสถาปัตยกรรมที่งดงาม แต่ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้งในวัฒนธรรมไทย เนื่องจาก “ช้าง” ถูกยกย่องให้เป็นสัตว์มงคล มีพลังในการปกป้องคุ้มครองและเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ผู้พบเห็นหรือที่อยู่อาศัย ชาวไทยเชื่อว่าการปั้นช้างประดับบ้านหรือสถานที่สำคัญต่าง ๆ จะนำความเจริญรุ่งเรืองและโชคลาภเข้ามา ปูนปั้นช้างจึงกลายเป็นวัตถุสัญลักษณ์ที่ใช้ในการเสริมฮวงจุ้ยและเพิ่มความเป็นสิริมงคลในสถานที่ต่าง ๆ ความหมายของช้างสามารถแยกได้ตามบริบทและความเชื่อดังนี้:

1.พลังและอำนาจ

ช้างเป็นสัตว์ขนาดใหญ่และมีกำลังมหาศาล จึงถูกใช้เป็นตัวแทนของพลังอำนาจและความแข็งแกร่ง ช้างในอดีตจึงถูกนำไปใช้ในสงคราม นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจของกษัตริย์และความยิ่งใหญ่ของอาณาจักร และยิ่งเป็นช้างเผือกในสมัยก่อนถือเป็นสัตว์ที่มีบารมีสูงสุด เป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ที่มีบุญญาธิการและบารมีมาก

2.ความมั่งคั่งและโชคลาภ

ช้างในฮวงจุ้ยถูกมองว่าเป็นตัวแทนของโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง การตั้ง รูปปั้นช้าง หรือวัตถุมงคลรูปช้างไว้ภายในบ้านหรือที่ทำงานจะช่วยเสริมสร้างโชคลาภทางการเงิน และนำความอุดมสมบูรณ์มาสู่ผู้อยู่อาศัยหรือเจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะการวางรูปปั้นช้างใกล้ทางเข้าหรือหน้าประตูใหญ่ เชื่อกันว่าจะดึงดูดพลังงานบวกและทรัพย์สมบัติให้เข้ามาในบ้านหรือสถานที่นั้น

3.การคุ้มครองและความเป็นมงคล

ในงานศิลปะและสถาปัตยกรรมของไทย เช่น ปูนปั้นช้างในวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ช้างมักเป็นสัญลักษณ์แห่งการปกป้องคุ้มครองและเสริมสร้างสิริมงคล ช้างที่ตั้งอยู่หน้าประตูวัดหรือพระราชวังมักเป็นสัญลักษณ์แห่งการป้องกันสิ่งชั่วร้ายและนำพาความสงบสุขมาสู่สถานที่นั้น

4.ความอุดมสมบูรณ์

ช้างในเชิงเกษตรกรรมหมายถึงความอุดมสมบูรณ์และการเจริญเติบโต เพราะในอดีตช้างถูกใช้ในการช่วยเหลืองานในไร่สวนหรือการลำเลียงสินค้าต่าง ๆ ชาวนามักเชื่อว่าช้างช่วยดึงดูดความอุดมสมบูรณ์เข้ามาในพื้นที่นั้น

5.ความสามัคคีและความเสียสละ

ช้างยังถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่ทำงานร่วมกันเป็นทีม มีความอดทนและเสียสละในการทำงาน โดยเฉพาะในงานหนักที่ต้องใช้กำลังมาก เช่น การลากท่อนซุงในป่าหรือลากของหนัก ทำให้ช้างแสดงถึงความสามารถในการทำงานร่วมกันและความเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

6.ปัญญาและความเมตตา

ในหลายวัฒนธรรม เช่น พุทธศาสนา ศาสนาหลักของคนไทยที่ช้างถือเป็นสัญลักษณ์ของปัญญาและความเมตตา ตามพุทธประวัติระบุไว้ว่า พระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ในชาติสุดท้ายก็เคยบังเกิดเป็นช้าง อีกทั้งช้างยังเกี่ยวข้องกับพระแม่ธรณีที่ปกป้องผู้คนด้วยความเมตตา

ช้างจึงมีความหมายที่หลากหลายและลึกซึ้งในวัฒนธรรมไทย ทำให้ช้างเป็นสัตว์ที่ได้รับการยกย่องและเคารพในทุกมิติของชีวิต ในทุกวันนี้ช้างยังคงเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยทั้งในระดับชาติและนานาชาติ และยังคงปรากฏในงานศิลปะ รวมถึงงานปูนปั้นที่สืบทอดศิลปะดั้งเดิมนี้อย่างวิจิตรบรรจง

ช้างปูนปั้น เสริมสิริมงคลตามหลักฮวงจุ้ย

ช้างปูนปั้น เสริมสิริมงคลตามหลักฮวงจุ้ย

ปัจจุบันคนไทยมีความเชื่อหลากหลายเพื่ออยากจะทำให้ชีวิตดีขึ้นทั้งด้านการเป็นอยู่หรือด้านหน้าที่การงาน จึงมีการนำวัถตุเสริมดวงมาไว้กับตัวหรือในบ้าน แต่ ช้างปูนปั้น ถือว่าเป็นวัตถุมงคลดั่งเดิมที่ถูกนำมาใช้ตามหลัก “ฮวงจุ้ย” ซึ่งเป็นศาสตร์จีนโบราณที่เน้นจัดการเรื่องความสมดุลของพลังงานในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อนำโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง และความสุขมาให้ เนื่องจากช้างถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ถูกนำมาใช้ในหลายบริบทตามความเชื่อ ซึ่งสามารถนำมาใช้เสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่สถานที่และผู้อาศัยตามหลักความเชื่อฮวงจุ้ยได้ ดังนี้:

1.เสริมพลังแห่งความมั่งคั่งและโชคลาภ

ช้างในฮวงจุ้ยถูกมองว่าเป็นตัวแทนของโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง การตั้ง รูปปั้นช้าง หรือวัตถุมงคลรูปช้างไว้ภายในบ้านหรือที่ทำงานจะช่วยเสริมสร้างโชคลาภทางการเงิน และนำความอุดมสมบูรณ์มาสู่ผู้อยู่อาศัยหรือเจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะการวางรูปปั้นช้างใกล้ทางเข้าหรือหน้าประตูใหญ่ เชื่อกันว่าจะดึงดูดพลังงานบวกและทรัพย์สมบัติให้เข้ามาในบ้านหรือสถานที่นั้น

2.ป้องกันและคุ้มครองสิ่งไม่ดี

ตามหลักฮวงจุ้ย ช้างยังเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องคุ้มครองและเสริมพลังงานเชิงบวก การวางรูปปั้นช้างคู่ไว้ที่ประตูบ้านหรือที่ทำงานเป็นการป้องกันสิ่งไม่ดีหรือพลังงานลบเข้ามาในพื้นที่ อีกทั้งยังเชื่อว่าช้างจะช่วยขับไล่ภัยอันตรายและเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านหรือธุรกิจ

3.เสริมพลังงานด้านความมั่นคงและความสงบ

ช้างมีความหมายถึงความแข็งแกร่ง ความมั่นคง และความสงบ การวางช้างในบ้านช่วยสร้างพลังงานที่มั่นคง ช่วยส่งเสริมให้คนในบ้านมีความเข้มแข็งและมีความสมดุลในชีวิต โดยเฉพาะเมื่อวางช้างในท่าหมอบหรือช้างที่สงบ ช่วยนำพาความสงบสุขและความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว

4.เสริมพลังด้านความอุดมสมบูรณ์และการสืบทอดวงศ์ตระกูล

ช้างในหลักฮวงจุ้ยยังถูกเชื่อมโยงกับความอุดมสมบูรณ์และการสืบทอดวงศ์ตระกูล หากต้องการส่งเสริมให้มีบุตรหรือให้ครอบครัวเติบโต อาจจะวางรูปปั้นช้างคู่แม่ลูกในบ้านเพื่อเสริมพลังด้านการสืบทอด และสร้างความสมบูรณ์พูนสุขให้กับครอบครัว

บทสรุป

ช้างปูนปั้น เป็นสัญลักษณ์ที่ทรงคุณค่าในวัฒนธรรมไทย มีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมและประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสิริมงคล การปกป้องคุ้มครอง และการแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์และบารมี ไม่ว่าจะเป็นในงานพิธีศาสนา ราชพิธี หรือพิธีประเพณีต่าง ๆ ช้างปูนปั้นมักปรากฏเพื่อเสริมพลังงานบวกและโชคลาภให้แก่สถานที่หรือบุคคล ช้างยังสื่อถึงความยิ่งใหญ่และความเจริญรุ่งเรือง ทั้งในแง่ของสังคมและเศรษฐกิจ การมีรูปปั้นช้างในพิธีหรือสถานที่สำคัญต่าง ๆ นั้นไม่เพียงแต่เพิ่มความสง่างาม ยังช่วยเสริมความศักดิ์สิทธิ์และความมั่นคงให้กับทุกพิธีกรรม

Relate Post

01/10/2025
รู้จักกับช่างปั้น มรดกภูมิปัญญาไทย หนึ่งในระบบช่างสิบหมู่

เมื่อพูดถึงศิลปกรรมไทยที่งดงาม ละเอียด และเปี่ยมไปด้วยความหมาย ไม่ว่าเราจะเป็นลวดลายปูนปั้นสวยงามตามวัด หรือพระพุทธรูปอันสง่างาม งานศิลป์เหล่านี้ล้วนผ่านฝีมือของช่างที่มากด้วยความชำนาญ หนึ่งในนั้นคือช่างปั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในช่างสิบหมู่ อันเป็นระบบฝีมือช่างหลวงของไทยที่สืบทอดต่อกันมายาวนาน ช่างปั้นไม่ใช่เพียงคนที่จับดินหรือปูนขึ้นรูปให้เป็นรูปทรงเท่านั้น แต่เป็นผู้สร้างชีวิตให้ศิลปะ ผ่านความเข้าใจในสัดส่วน ศรัทธาในศิลป์ และทักษะอันลึกซึ้ง โดยเราจะพาทุกท่ายไปรู้จักกับช่างสิบหมู่ และทำความรู้จักกับช่างปั้นให้มากขึ้นว่ามีความสำคัญอย่างไร ทำไมถึงเป็นมรดกทางภูมิปัญญาของไทยเรา ช่างสิบหมู่คืออะไร? และช่างปั้นอยู่ในหมวดไหน ช่างสิบหมู่คือระบบการจำแนกประเภทของช่างฝีมือไทยที่ใช้ในงานศิลปกรรมหลวงและงานช่างพื้นบ้านชั้นสูง โดยแบ่งออกเป็น 10 สาขาวิชา ได้แก่ ช่างเขียน ช่างแกะ ช่างสลัก ช่างกลึง ช่างหล่อ ช่างปั้น ช่างหุ่น ช่างรัก ช่างบุ และช่างปูน ระบบนี้มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาและยังคงได้รับการสืบทอดและพัฒนาต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะในบริบทของงานหลวง งานศาสนา และงานศิลปะประดับราชสำนัก ซึ่งช่างปั้นคือผู้มีบทบาทสำคัญในการขึ้นรูปต้นแบบของวัตถุต่าง ๆ โดยเฉพาะในงานประติมากรรมที่ต้องใช้ความแม่นยำในสัดส่วน ความละเอียดในการเก็บรายละเอียด และความเข้าใจเชิงลึกในเรื่องจิตวิญญาณของศิลปะไทย โดยช่างหนึ่งคนนอกจากการปั้นแล้ว อาจจะสามารถทำงานอื่น ๆ ที่คล้ายกันได้ด้วย หน้าที่ของช่างปั้นในระบบช่างสิบหมู่ ต้องทำอะไรบ้าง ช่างปั้นมีหน้าที่หลักในการสร้างรูปทรงหรือรูปร่างของวัตถุทางศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เทวดา สัตว์ในป่าหิมพานต์ หรือลวดลายไทยต่าง ๆ […]

Read More
15/09/2025
ประติมากรรมร่วมสมัย งานปั้นยุคใหม่ที่ไม่ได้มีไว้แค่โชว์

เมื่อพูดถึงงานปั้น ภาพในหัวของใครหลายคนอาจยังเป็นรูปปั้นในวัด รูปหล่อสำริดในพิพิธภัณฑ์ หรือรูปเหมือนบุคคลสำคัญที่ตั้งตระหง่านอยู่บนฐานหิน แต่ในโลกของศิลปะร่วมสมัย งานปั้นไม่ได้มีไว้แค่โชว์ความสวยงามหรือบอกเล่าเรื่องราวในอดีตอีกต่อไป แต่ประติมากรรมร่วมสมัย ที่ศิลปินยุคใหม่เริ่มใช้งานปั้นเป็นภาษาที่สื่อสารกับผู้คน บางชิ้นชวนตั้งคำถาม บางชิ้นพูดถึงความเปราะบางของชีวิต บางชิ้นเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์กับงานราวกับมันมีชีวิต งานปั้นกลายเป็นมากกว่าวัตถุ แต่คือแนวคิด คำพูด และการตั้งคำถามที่จับต้องได้ ซึ่งเราจะพาทุกท่านเข้าไปทำความรู้จักกับศิลปะในรูปแบบใหม่กันให้มากขึ้น ความหมายและพัฒนาการของประติมากรรมร่วมสมัย ประติมากรรมร่วมสมัย (Contemporary Sculpture) คือศิลปะการปั้นในยุคปัจจุบันที่หลุดพ้นจากขนบเดิม ๆ ทั้งในเรื่องของรูปแบบ เทคนิค และความหมาย มันไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำรูปเหมือนหรือรูปทรงที่สวยงามอีกต่อไป แต่เปิดกว้างให้ศิลปิน สร้างสรรค์ตามแนวคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว สังคม การเมือง หรือแม้กระทั่งปรัชญา ซึ่งต่างจากประติมากรรมในยุคก่อนที่เน้นความสมจริง ความณีต ประและการยึดโยงกับศาสนาและอำนาจแต่สิ่งนี้กลับเน้นการตั้งคำถามมากกว่าการให้คำตอบ ให้ผู้คนได้รู้สึกไปกับงาน มากกว่าจะแค่มีไว้ตั้งโชว์ โดยจุดเปลี่ยนของประติมากรรมร่วมสมัยเริ่มต้นจากช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อศิลปินทั่วโลกเริ่มแสดงความไม่เห็นด้วยกับระบบเดิม ๆ ทั้งในด้านศิลปะ การเมือง และวัฒนธรรม ความเจ็บปวด ความสูญเสีย และความเปลี่ยนแปลงของโลก กลายเป็นแรงผลักดันให้ศิลปะต้องพูดมากกว่าแค่การตกแต่งเพื่อความสวยงามนั่นเอง งานปั้นในประติมากรรมร่วมสมัย จากรูปทรงสู่แนวคิด ถ้าย้อนกลับไปในอดีต งานปั้นหรือประติมากรรมมักถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงสิ่งที่มองเห็น อย่างรูปคน รูปเทพ รูปสัตว์ […]

Read More
01/09/2025
ลายไทยปูนสด ศิลปะฝีมือที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นของช่างไทย

ในโลกของศิลปะไทย ลวดลายไม่ได้มีไว้แค่เพื่อความสวยงาม แต่เป็นเสมือนภาษาที่เล่าเรื่องราว ถ่ายทอดความเชื่อ ความศรัทธา และจิตวิญญาณของผู้สร้างสรรค์อย่างลึกซึ้ง หนึ่งในรูปแบบศิลปกรรมที่สะท้อนสิ่งเหล่านี้ได้ชัดเจนที่สุดก็คือปูนปั้นลายไทย ศิลปะฝีมือที่ต้องอาศัยทั้งทักษะ ความชำนาญ และหัวใจของช่างอย่างแท้จริง โดยส่วนมากแล้วงานปั้นที่ได้เห็นจะใช้ปูนสด ซึ่งเป็นกรรมวิธีการทำปูนตามแบบโบราณ ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ถึงแม้ในปัจจุบันนี้จะมีการใช้ปูนชนิดอื่นที่หาได้ง่ายมาทำการปั้น แต่การปั้นลายไทยนั้นยังคงอยู่ โดยลวดลายที่นำมาปั้นมักจะเป็นลายไทยแบบดั้งเดิม เช่น ลายกระหนก ลายเครือเถา ลายเทพพนม หรือแม้กระทั่งรูปสัตว์หิมพานต์ ซึ่งล้วนแล้วแต่สะท้อนเอกลักษณ์ความงามของศิลปกรรมไทยอย่างลึกซึ้ง การทำลายไทยปูนสดจึงไม่ใช่แค่งานประดับอาคาร แต่ยังเป็นศิลปะที่ผสมผสานจิตวิญญาณ ความรู้ และความศรัทธาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ความเป็นมาของงานปูนปั้นลายไทย ศิลปกรรมสะท้อนชีวิต งานปั้นถือเป็นหนึ่งในศิลปะแรกเริ่มที่มนุษย์สร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการปั้นรูปคน สัตว์ หรือเครื่องใช้ต่าง ๆ ด้วยดินเหนียว ล้วนสะท้อนความคิด ความเชื่อ และวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละยุคสมัย ในประเทศไทย งานปั้นมีมาแต่โบราณ โดยเฉพาะในยุคทวารวดี ศรีวิชัย และสุโขทัย โดยงานปูนปั้นลายไทยเริ่มเห็นชัดเจนในสมัยอยุธยาตอนกลางถึงปลาย โดยเริ่มนำลายไทยแบบวาดมาปั้นให้เกิดมิติบนผนังอาคาร ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยเฉพาะในรัชกาลที่ 3 และ 4 งานปูนปั้นลายไทยเฟื่องฟูถึงขีดสุด เนื่องจากได้รับการส่งเสริมจากราชสำนักในการสร้างวัดหลวงและพระราชวัง เช่น วัดสุทัศน์ วัดราชบพิธ วัดพระแก้ว […]

Read More

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดต่อเรา
ปูนปั้นช่างบรรจง รับปั้นรูปสัตว์ต่างๆ
ไก่ปูนปั้น ช้าง ม้า วัว ควาย ช้างทรง ม้าทรง ราคาถูกสั่งได้สอบถามก่อนได้ครับ
ติดต่อเราติดต่อเราFacebookติดต่อเรา
สถานที่ตั้งหน้าร้าน...
ร้านตั้งอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านนนท์ณิชาบางใหญ่ 2 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี