Author: content3.thaitopseo

06/01/2025
นกปูนปั้น รากลึกของความมงคล และสัญลักษณ์แห่งธรรมชาติที่มีชีวิต

นกปูนปั้น เป็นอีกงานศิลป์หนึ่งที่มีรากลึกในวัฒนธรรมและประเพณีไทยมาอย่างยาวนาน โดยการปั้นนกนั้นถูกสืบทอดมาตั้งแต่ยุคโบราณที่ถูกใช้ในงานสถาปัตยกรรมไทย โดยเฉพาะในวัดวาอารามและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ที่ถูกจัดตั้งไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความความอุดมสมบรูณ์และความงามของธรรมชาติที่มีชีวิตชีวา นอกจากนี้รูปปั้นนกยังถือได้ว่าเป็นประติมากรรมสัตว์มงคลให้ผู้พบเห็น รู้สึกถึงความสำคัญและความเชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรมไทย จึงไม่น่าแปลกใจที่รูปปั้นนกชนิดต่าง ๆ จะได้รับความนิยมในการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยเฉพาะในสวนและบ้านเรือน ประวัติและความสำคัญของนกปูนปั้นในวัฒนธรรมไทย ศิลปะการปั้นนกจากปูนมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการสร้างวัดในไทย วัดที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์มักตกแต่งด้วยงานปูนปั้น ซึ่งแสดงถึงทักษะของช่างปั้นที่สามารถถ่ายทอดความงามของธรรมชาติผ่านงานฝีมืออันประณีต นกปูนปั้นในสมัยนั้นถูกปั้นขึ้นมาในลักษณะสัญลักษณ์ทางศาสนา ตัวอย่างเช่น นกยูง ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของความรุ่งเรืองและความบริสุทธิ์ ส่วนในงานศิลปะของช่างฝีมือบางกลุ่ม นกการเวกถูกปั้นขึ้นมาในฐานะนกที่มีเสียงเพลงอันไพเราะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขและความสงบสุขภายในวัด ในสมัยโบราณ ประติมากรมักปั้นนกจากปูนเพื่อตกแต่งสถานที่ทางศาสนา เช่น วัด หรือศาลเจ้า เท่านั้น นอกจากนี้เรื่องราวของนกนั้นได้ปรากฎในที่ต่าง ๆ มากมายในวัฒนธรรมไทย เช่น วรรณกรรม ตำนาน และเรื่องราวความเชื่อต่าง ๆ โดยนกที่ถูกกล่าวถึงในศิลปะไทยและวัฒนธรรมไทยนั้นมีอยู่หลากหลายชนิดที่มีความหมายที่ทั้งดีและไม่ดี สัญลักษณ์และความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับนกปูนปั้น นกในงานศิลปะปูนปั้น ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของธรรมชาติและความสวยงามเท่านั้น แต่ยังแฝงความหมายลึกซึ้งทางจิตวิญญาณและความเชื่อของคนไทยมานานที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ชาวไทยเชื่อว่านกเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ ความสุข และเสรีภาพ การโบยบินของนกแสดงถึงการหลุดพ้นจากความยากลำบาก และนำพาตนสู่ความสุขและเสรีภาพทางใจ การไปทำบุญปล่อยนกปล่อยปลาที่วัดจึงถือได้ว่าเป็นการทำบุญต่อชีวิตเพื่อเป็นสิริมงคล ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของสุขภาพ ความมั่งคั่ง หรือความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ซึ่งสอดคล้องกับการประดับตกแต่งนกปูนปั้นในวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และการปลดปล่อยจากสิ่งยึดเหนี่ยวให้ก้าวไปสู่สิ่งที่ดีงาม นกปูนปั้นกับความเชื่อในโชคลาภและความมงคล […]

Read More
13/12/2024
ช้างปูนปั้นในพิธีกรรมไทย บทบาทและความสำคัญในงานประเพณี

ช้างมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยมาอย่างยาวนาน ไม่เพียงแต่เป็นสัตว์คู่บารมีของกษัตริย์ไทยในสมัยโบราณ แต่ยังถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่และความศักดิ์สิทธิ์ จนทำให้มี ช้างปูนปั้น ในปัจจุบัน และยิ่งเป็นช้างเผือกแล้วละก็ถือได้ว่าเป็นสัตว์มงคลที่เชื่อว่ามีอำนาจบารมี ปกป้องบ้านเมืองและราชวงศ์เป็นอย่างมาก ในอดีตช้างถูกใช้ในสงคราม ร่วมปกป้องอาณาจักรไทยจากศัตรู และเป็นพาหนะที่แสดงถึงความสูงศักดิ์ของกษัตริย์ นอกจากบทบาททางการเมืองและการทหารแล้ว ช้างยังเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ในศาสนาพุทธ โดยปรากฏอยู่ในตำนานและเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า พระแม่ธรณี และเทพเจ้าในคติความเชื่อของชาวไทย การนำรูปปั้นช้างเข้ามาใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ หรือพิธีบวงสรวงจึงเป็นการเสริมสิริมงคล ให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองและปกป้องคุ้มครองผู้ที่เข้าร่วมพิธี ความงามและความศักดิ์สิทธิ์ของช้างปูนปั้น ในวัฒนธรรมไทย ศิลปะช้างปูนปั้นเป็นการสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างช้างและวัฒนธรรมไทย การสร้างสรรค์รูปปั้นช้างด้วยปูนปั้นไม่ใช่เพียงเพื่อความงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึงความเคารพและยกย่องสัตว์ที่มีบทบาทสำคัญในวิถีชีวิตและความเชื่อของคนไทย ช่างปั้นในอดีตมักจะถ่ายทอดลักษณะของช้างออกมาอย่างละเอียดอ่อน ตั้งแต่ขนาด รูปร่าง ไปจนถึงการแสดงอารมณ์และบุคลิกของช้าง ผ่านท่าทางที่สง่างาม เช่น ช้างยืนหรือนั่งหมอบอยู่ในท่วงท่าที่มีความหมายทางศาสนาและพิธีกรรม โดยปูนปั้นช้างมักถูกใช้ในการตกแต่งสถานที่ทางศาสนา เช่น วัด โบสถ์ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อสื่อถึงการปกปักรักษาและป้องกันสิ่งชั่วร้าย นอกจากนี้ ศิลปะการปั้นช้างยังสื่อถึงความยิ่งใหญ่ของไทยในประวัติศาสตร์ การใช้ช้างปูนปั้นในงานตกแต่งทางสถาปัตยกรรมจึงไม่เพียงแค่แสดงถึงทักษะทางศิลปะของช่างฝีมือไทย แต่ยังเป็นการเชิดชูสัตว์สัญลักษณ์แห่งชาติที่มีความผูกพันกับราชวงศ์ ศาสนา และประชาชนไทยมาอย่างยาวนาน พลังแห่งช้างปูนปั้น ความสำคัญในงานบุญและประเพณีไทย ช้างปูนปั้น มีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมไทยหลากหลายประเภท เนื่องจากช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรม เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจและความเป็นสิริมงคล การใช้ช้างปูนปั้นในพิธีกรรมจึงมีความเชื่อมโยงกับความศักดิ์สิทธิ์และสิริมงคลในหลากหลายบริบท นี่คือตัวอย่างของพิธีกรรมที่มีการใช้ช้างปูนปั้น: […]

Read More
25/11/2024
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ความศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อที่มีมาแต่อดีต

ในประเทศไทย ความเชื่อ ความศักดิ์สิทธิ์ และความศรัทธาเป็นของที่อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนาน ในทุกความเชื่อและประเพณีของชาติไทย “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” หรือ “ศาลหลักเมือง” คือหนึ่งในสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธาของคนในแต่ละจังหวัดได้อย่างไม่น่าเหลือเชื่อ เพราะเป็นศูนย์กลางแห่งความเชื่อที่ผูกพันชีวิตของชุมชนและวัฒนธรรมไทยอย่างแยกไม่ออก ตั้งแต่ยุคสุโขทัยผ่านยุคอยุธยาและมาจนถึงยุครัตนโกสินทร์ ศาลหลักเมืองไม่เพียงแต่พื้นที่ที่สำคัญสำหรับการประกอบพิธีกรรมในแต่ละจังหวัดเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจและวัฒนธรรมที่มีความเป็นไทยสืบสานกันต่อมา การที่แต่ละเมือง (จังหวัด) ต่างมีศาลหลักเมืองเป็นของตนเอง ไม่เพียงแสดงถึงความเชื่อและความเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างชุมชน และประชากรในพื้นที่นั้นที่มีตั้งแต่ในอดีตต่อเมือง ดังนั้นบทความในครั้งนี้เราจะพาไปสำรวจประวัติและความเป็นมาของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกันว่าทำไมถึงมีขึ้นมา และมีความเชื่ออะไรจึงทำให้กลายเป็นดั่งศูนย์รวมของคนในแต่ละเมือง (จังหวัด) ร่องรอยประวัติความเป็นของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง หรือที่ถูกเรียกสั้น ๆ ว่า “ศาลหลักเมือง” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่รวมความเชื่อและพิธีกรรมของหลายศาสนาเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งศาสนาพุทธ, พราหมณ์ และศาสนาพื้นบ้านแบบจีน มักตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นชัยภูมิสำคัญของเมืองอย่าง “เสาหลักเมือง” โดยแต่ครั้งก่อนที่จะสร้างเมืองในแต่ละพื้นที่ (จังหวัด) มักจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในพื้นที่ที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ หรือเป็นใจกลางเสมอ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น การสร้าง “เสาหลักเมือง” ในประเทศไทยเป็นประเพณีที่เก่าแก่ มีมาตั้งแต่ยุคกรุงสุโขทัย และยังดำเนินต่อมาในยุคกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ โดยประเพณีการสร้างเสาหลักเมืองนี้มีรากฐานมาจากประเพณีพราหมณ์ของอินเดีย มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นมิ่งขวัญและนิมิตมงคลให้กับบ้านเมืองที่กำลังจะสร้างขึ้นมา และยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงตำแหน่งหลักของเมือง เพื่อช่วยให้บ้านเมืองนั้นอยู่ร่มเย็นและอยู่กันอย่างเป็นสุข นอกจากนี้การสร้างเสาหลักเมือง ยังไม่เพียงแต่เป็นประเพณีที่เป็นความเชื่อก่อนตั้งรากฐานสร้างเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนดั่งเครื่องหมายทางศาสนาและพิธีกรรม ให้ประชาชนหรือคนในพื้นที่ได้รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันอีกด้วย ถ้าให้ยกตัวอย่าง […]

Read More
28/10/2024
รูปปั้นสัตว์ ของตกแต่งคู่กับความเชื่อที่เจอได้ทุกที่

ของตกแต่งบางอย่างมักมีความเชื่อมาอยู่คู่ด้วยเสมอ บางสิ่งเชื่อว่าใส่แล้วจะโชคดีแบบนี้ บางสิ่งมีตกแต่งในบ้านหรือพื้นที่ธุรกิจแล้วจะเสริมดวง เสริมโชค โดยของตกแต่งอย่างหนึ่งที่นับได้ว่าเป็นสิ่งที่คุณจะพบเห็นได้บ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือตามสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์หรือมีความเชื่อต่าง ๆ อยู่ด้วยนั้นคือ “รูปปั้นสัตว์” ของตกแต่งที่มักมาคู่กับความเชื่อและสายมูอยู่เสมอ รูปปั้นสัตว์ต่าง ๆ กับความเชื่อของไทย เรามักเห็นได้เสมอตามสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์หรือมีความเชื่อต่าง ๆ ของไทยเรา มักจะมีของตกแต่งอย่างรูปปั้นสัตว์หลายชนิดอยู่คู่ด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็น ม้าลาย เสือ วัว หรือช้าง แต่เคยรู้หรือไม่ว่าสัตว์เหล่านี้มีความเชื่อแบบไหน และตัวรูปปั้นสัตว์แต่ละตัวแสดงถึงอะไรบ้าง วันนี้เราจะพามาดูกัน 1.รูปปั้นม้าลาย หนึ่งในรูปปั้นที่พบเห็นได้บ่อยตามสถานที่ต่าง ๆ บริเวณริมถนน โดยตัวรูปปั้นม้าลายมีความเชื่อว่า หากนำรูปปั้นม้าลายไปวางบริเวณพื้นที่ไหนจะแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุทางถนน แต่ไม่ว่าจะมีความเชื่อแบบใดก็ตาม หากยังขับรถด้วยความประมาทก็ยังทำให้ประสบอุบัติเหตุได้อยู่ดี นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่ารูปปั้นม้าลายเป็นเหมือนดั่งสัญลักษณ์คอยเตือนภัยให้กับผู้ขับรถบนท้องถนนให้รู้ว่าบริเวณนั้นเกิดอุบัติเหตุบ่อยอีกด้วย 2.รูปปั้นช้าง ช้างเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับคนไทย และเป็นเหมือนดั่งสัญลักษณ์ของประเทศไทย จึงทำให้รูปปั้นช้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก รูปปั้นช้างนับเป็นสิ่งหนึ่งที่เราคนไทยมักนำไปใช้แก้บนบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะไปบนในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไหนก็ตาม หากนึกสิ่งแก้บนไม่ออก รูปปั้นช้างมักเป็นคำตอบได้เสมอ โดยตัวช้างนี้เป็นเหมือนดั่งสัญลักษณ์แห่งพลัง ความเฉลียวฉลาด และแสดงความเป็นอำนาจ และในทางความเชื่อช้างยังช่วยส่งเสริมความมั่นคงของการทำธุรกิจ และทำให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุขได้ 3.รูปปั้นเสือ รูปปั้นเสือไม่ได้เป็นรูปปั้นที่พบเห็นในเมืองได้บ่อยนัก แต่จะพบเห็นได้สถานที่ต่างจังหวัดที่เป็นป่า หรือภูเขา ด้วยตัวรูปปั้นเสือมีความเชื่อว่า สามารถป้องกันจากภัยอันตรายและสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ […]

Read More
02/09/2024
“ของแก้บน” ความเชื่อที่มาพร้อมกับการ “บนบาน”

“ของแก้บน” ความเชื่อที่มาพร้อมกับการบนบาน ถือว่าเป็นสิ่งที่ยากจะลบเลือนไปจากสังคมไทย ตราบใดที่วาทกรรมอย่าง “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ยังคงส่งผลกับความเชื่อของคนในปัจจุบัน เพราะความเชื่อในสังคมไทยนั้นมีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ถ้าจะให้ปฏิเสธความเชื่อในสังคมไทยโดยยึดหลักเหตุผลอย่างเดียวคงต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะเป็นสิ่งที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมาตั้งแต่อดีต จุดเริ่มต้นความเชื่อของมนุษย์เกิดจากความกลัวในสิ่งที่ตนเองไม่สามารถควบคุมได้ ตั้งแต่ฝนตก แดดออก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ประกอบกับในอดีตมนุษย์มีความซับซ้อนในการอธิบายน้อย และไม่มีองค์ความรู้ในการพัฒนาวิธีคิด จึงทำให้เกิดความคิดที่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอำนาจเหนือธรรมชาติ มีวิญญาณบางอย่างสถิตอยู่ จึงเป็นที่มาของการนับถือ บูชา อำนาจเหนือธรรมชาติ จนกลายเป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ จนพัฒนามาเป็นลัทธิ ความเชื่อ นำมาสู่การบูชา และบนบาน แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป แต่การถ่ายทอดความเชื่อเรื่องการแก้บน และการบนบานยังไม่ได้หายไป เพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของยุคสมัย ที่คนสามารถเข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น มีการแชร์ มีการโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อออกไปอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นกระแสให้หลายคนเกิดความรู้สึกอยากลองทำตาม หนึ่งในนั้นก็คือการบนบาน และการแก้บนนั่นเอง เปิดตำราพามู “ของแก้บน” ที่ควรรู้ สายมูไม่ควรพลาด! การบนบาน เป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ทั้งจากข่าว หรือจากคนใกล้ตัว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการบนบานไปแล้ว จะต้องมี “ของแก้บน” ไว้สำหรับแก้บนด้วย ซึ่งการแก้บนนั้นมีอยู่หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การรำ หรือการถวายของแก้บน วันนี้ เราจึงจะพาคุณมาดูของแก้บนที่คนนิยมนำมาแก้บนจากการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่ามีอะไรบ้าง […]

Read More
01/08/2024
รูปปั้นเสือ ณ โค้งปิ้งงู (ประวัติความเป็นมาที่ทำให้ผู้คนถวายรูปปั้นเสือที่โค้งปิ้งงู)

ไม่ว่าจะสถานที่ไหน ๆ ของประเทศไทยเราล้วนต้องมีเรื่องเล่าหรือความเชื่อบางอย่างที่ผูกติดจากคนรุ่นก่อนมาเสมอ และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่ทุกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือสถานที่ที่มีความเชื่อเหล่านี้ มักมีสิ่งบูชาทั้ง พระพุทธรูป หรือปูนปั้นรูปทรงสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ม้าลาย ช้าง ไก่ หรือเสือ มาวางบูชาอยู่ด้วยเสมอ และหนึ่งสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสกลนคร และยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งกับ รูปปั้นเสือ ณ โค้งปิ้งงู โค้งที่มีการวางปูนปั้นเสืออยู่มากมายหลายร้อยตัว และไม่ว่าใครก็ตามที่ขับผ่านจะต้องบีบแตรกราบไหว้อยู่เสมอ โค้งปิ้งงู อยู่ในโซนพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูพาน จังหวัดสกลนคร โดยเป็นเส้นทางขึ้นเขาภูพานที่มีลักษณะโค้งลัดเลาะและโค้งที่คดเคี้ยวเป็นอย่างมาก หากมองจากมุมสูงแล้วจะดูเหมือนงูกำลังถูกปิ้งแล้วตัวคดเคี้ยงไปมา คำถามถัดมาคือ ทำไมโค้งปิ้งงูถึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ว่าใครก็ตามขับขี่ผ่านมาต้องบีบแตรกราบไหวกันเสมอ ด้วยความเป็นโค้งที่มีความคดเคี้ยวสูง และเป็นทางลาดชันภูเขาของพื้นที่อุทยาน การเดินทางสัญจรในบริเวณนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังสูงอย่างมาก ประกอบกับพื้นที่บริเวณโค้งดังกล่าวมีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง พร้อมกับรูปปั้นเสือวางบูชาอยู่มากมายหลายร้อยตัว จึงทำให้ต้องบีบแตรแทนการกราบไหว้ เพื่อขอให้เดินทางปลอดภัย เพราะหากยกมือไหว้แบบปกติอาจเกิดอุบัติเหตุได้ และด้วยเหตุนี้โค้งนี้จึงถูกผู้คนแถวนั้นเรียกกันว่า “ศาลเจ้าพ่อเสือ” และทำให้โค้งปิ้งงูกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนท้องถิ่น และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสกลนคร ที่ไม่ว่าใครที่ผ่านทางมาก็ต้องบีบแตรกราบไหว้กันเพื่อขอให้เดินทางปลอดภัยเสมอ ทำไมถึงมีรูปปั้นเสืออยู่ที่โค้งปิ้งงู โค้งปิ้งงู เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์แห่งหนึ่งได้ เพราะการมีอยู่ของพระพุทธรูปที่มีนามว่า “พระพุทธลีลามิ่งมงคลสกลสันติสุขศรีสุวรรณบรรพต” แต่พระพุทธรูปองค์ดังกล่าว ไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นคนเอามาวางไว้ และวางไว้ตั้งแต่เมื่อไร บวกกับการเดินทางที่ยากและอันตราย จากโค้งอันคดเคี้ยว จึงมีการสันนิฐานว่า คนพื้นที่บริเวณนั้นในอดีตได้มากราบไหว้พระพุทธรูปองค์นี้อยู่เสมอ และมักมีการนำรูปปั้นเสือมาถวาย เพื่อขอให้การเดินทางผ่านพื้นที่โค้งป่านี้เป็นไปได้อย่างปลอดภัย […]

Read More
08/07/2024
ไอเดียแต่งบ้านตามปีเกิด อยู่แล้วดี มีแต่โชคลาภ

“แต่งบ้านตามปีเกิด” ถือเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ความเชื่อกลายมาเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับชีวิตประจำวัน หลายคนที่อาจจะเคยมองว่าเรื่องพวกนี้ไม่สำคัญ ปัจจุบันก็อาจหันมาพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันหมดเสียแล้ว แน่นอนสิ ยุคนี้ใครก็ต้องหาที่พึ่งทางใจกันทั้งนั้น ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ว่าก็มีมากมายหลายศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อเรื่องดวง การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น วันนี้ สิ่งที่เราจะพูดถึงกันก็คือการเอาความเชื่อนั้นมาผูกโยงกับการแต่งบ้าน แน่นอนอยู่แล้วที่คนเราย่อมอยากมีบ้านที่อยู่แล้วดี มีความสุข แต่การที่จะตกแต่งให้บ้านทั้งสวยและถูกโฉลกได้นั้นจะต้องอาศัยทั้งศาสตร์ด้านความเชื่อ และศาสตร์ด้านการตกแต่งเข้าด้วยกัน วันนี้ เราเลยเอาไอเดียการแต่งบ้านตามปีนักษัตรมาฝากกัน รับรองได้เลยว่าอยู่แล้วดี มีแต่โชคลาภ รับความเฮงไม่หวาดไม่ไหวกันเลยทีเดียว! เปิดตำราเสริมดวง! แต่งบ้านตามปีเกิดอย่างไรให้มีแต่ความปัง! หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบทั้งการมู และการแต่งบ้าน ก็ไม่ควรพลาดการ แต่งบ้านตามปีเกิด เพราะจะมีอะไรดีไปกว่าการที่บ้านที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนำพาแต่ความสุข ไม่มีเรื่องให้ทุกข์ร้อนใจ ฉะนั้นแล้วอย่ารอช้า ตามเรามาเปิดตำราเสริมดวงสไตล์คนชอบแต่งบ้านกันดีกว่า เผื่อจะยิ่งช่วยเสริมดวงชะตาจากที่เฮงอยู่แล้ว ก็ให้เฮงยิ่งขึ้นกว่าเดิม! เป็นอย่างไรกันบ้างกับไอเดียการแต่งบ้านของแต่ละปีเกิด แน่นอนอยู่แล้วว่าแต่ละบ้านก็ต้องมีการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป ใครที่อ่านแล้วชื่นชอบก็สามารถนำเอาไปปรับใช้กับบ้านของคุณได้ แต่ถ้าหากว่าไอเดียที่เรานำมาฝากขัดกับไลฟ์สไตล์ของคุณเกินไปก็ไม่ว่ากัน เพราะไม่ว่าบ้านของคุณจะตกแต่งแบบไหน หากถูกใจผู้อาศัยก็ล้วนเป็นมงคลทั้งนั้น ดั่งสุภาษิตที่ว่า “ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน” นั่นเอง เปิดพาเลทสีแต่งบ้านตามปีเกิด บ้านสีไหนถูกโฉลก ทาแล้วดี ทาแล้วเฮง! เมื่อเรารู้ไอเดียการ แต่งบ้านตามปีเกิด ด้วยเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งอย่างอื่นกันไปแล้ว ต่อมาก็ถึงคิวของการเลือกสีทาบ้านเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับบ้านของเรากันแล้ว เรียกได้ว่าจะมีบ้านมงคลทั้งทีก็ต้องมงคลกันทั้งในบ้าน และนอกบ้านกันเลยทีเดียว […]

Read More
04/06/2024
ตุ๊กตาแต่งสวน ความสวยงามที่เป็นมากกว่าของตกแต่ง

ก่อนจะมาเป็น ตุ๊กตาแต่งสวน ต้องขอท้าวความก่อนว่าในสมัยก่อนประเทศไทยกับประเทศจีนมีการทำการค้าขายระหว่างกัน ซึ่งไทยส่งออกสินค้าจำพวกทอง เสื้อผ้า และเครื่องเทศต่าง ๆ ให้กับจีน มีการขนส่งสินค้าด้วยทางเรือแต่ทว่าเมื่อส่งสินค้าเสร็จแล้ว ก่อนเรือจะแล่นกลับนั้นน้ำหนักเรือค่อนข้างเบา อาจเกิดอันตรายขณะแล่นกลับได้ จีนจึงให้ก้อนหินมาหลายก้อนมาถ่วงน้ำหนักเรือเพื่อให้เรือสามารถแล่นกลับไปประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง จีนได้เห็นว่าก้อนหินเป็นก้อน ๆ สามารถทำให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ ได้ จึงได้มีการคิดค้นหาวิธีการในแปรหินให้มีประโยชน์มากขึ้น และในปัจจุบันตุ๊กตารูปทรงหินที่หลายคนเห็นตามวัดที่มีเชื้อสายจีนเรียกกันว่า “ตุ๊กตาอับเฉา” และนี่จึงเป็นที่มาของการตุ๊กตารูปปั้น จากนั้นประเทศไทยก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปั้นตุ๊กตาและปรับเปลี่ยนรูปร่างของตุ๊กตาให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นทำให้หลายคนนิยมนำตุ๊กตาปูนปั้นใช้ในการตกแต่งภายในบ้าน หรือตกแต่งสวนเพื่อให้เกิดความสวยงามและน่าอยู่มากขึ้น วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับการเลือกของตกแต่งแวดล้อมให้เข้ากับตุ๊กตาแต่งสวน เพื่อให้สวนน่าอยู่ มีชีวิตชีวา และสมบูรณ์แบบมากขึ้นจะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย เคล็ดลับของการแต่งสวนอย่างไรให้เข้ากับตุ๊กตาปูนปั้น หากใครกำลังมองหาวัสดุหรือสิ่งของสำหรับตกแต่งสวนอยู่ นอกจากของตกแต่งสวนตามด้านบนแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือตุ๊กตาแต่งสวนแต่จะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับสวนและเป็นสิริมงคลนั้น มาดูกันเลยค่ะ วิธีเลือกตุ๊กตาแต่งสวนตามหลักฮวงจุ้ย หากใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกตุ๊กตาอย่างไรให้ถูกหลักฮวงจุ้ย วันนี้เราจะมาบอกหลักการเลือกตุ๊กตาแต่ละประเภท เพื่อให้สวนของคุณสวยงาม เป็นศิริมงคล และช่วยส่งเสริมฮวงจุ้ยกันด้วยอีกด้วย นี่ก็เป็นตัวอย่างของตุ๊กตาปูนปั้นที่มีความเชื่อและความนิยมกันอยู่เสมอ ซึ่งนอกจากจะมีความหมายที่ดีแล้วยังช่วยให้สวนของคุณมีชีวิตชีวาและร่มรื่นมากขึ้นอีกด้วย หากใครกำลังคิดจะตกแต่งสวน และอยากได้ทั้งความสวยงามและความโชคดีอยู่ล่ะก็ อย่าลืมคำนึงถึงการเลือกสิ่งของตกแต่งและการวางตำแหน่งทิศทางต่าง ๆ ซึ่งมีความสำคัญต่อหลักของฮวงจุ้ยตามความเชื่อที่ไม่ควรมองข้าม และแน่นอนถ้าอยากได้ตุ๊กตาปูนปั้น ตุ๊กตาแต่งสวน จากช่างฝีมือดี ๆ เราขอแนะนำปูนปั้นช่างบรรจง ซึ่งช่างสามารถทำขนาดตุ๊กตาตามที่ต้องการได้ถึง 3.5 เมตรเลยทีเดียวหรือสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่าง […]

Read More
15/05/2024
 “ม้าทรง” พาหนะคู่บุญของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

หากพูดถึงพาหนะคู่บุญของพระมหากษัตริย์ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องมีจะ “ม้าทรง” เพราะถือว่าเป็นสัตว์คู่บารมีที่พระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ทรงนำมาเป็นพาหนะขณะทำศึกสงคราม เนื่องจากมีความปราดเปรียว ว่องไว เช่นเดียวกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่ได้ทรงเลือกม้าเป็นม้าทรงในการทำ ศึกสงคราม จนมีการขนานนามว่าพระองค์ทรงเป็น “นักรบบนหลังม้า” ทำให้พระบรมราชานุสาวรีย์ พระเจ้าตากสินมหาราชส่วนใหญ่จะเป็นรูปปั้นพระองค์ทรงม้าออกรบอย่างที่เห็นในปัจจุบัน พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราชคู่กับม้าทรง ตั้งอยู่บริเวณวงเวียนใหญ่ ถนนประชาธิปก เป็นรูปปั้นพระเจ้าตากสินในลักษณะทรงม้า พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ มีความสูงจากเท้าม้าถึงยอดพระมาลา 9 เมตร ฐานอนุสาวรีย์เป็นแท่นคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 8.90 เมตร กว้าง 1.80 เมตร ยาว 3.90 เมตร นอกจากนี้ สองด้านของแท่นฐานมีรูปปั้นนูนด้านละ 2 กรอบรูป ถ่ายทอดภาพประวัติศาสตร์อยู่ 4 รูป โดยรูปแรกเป็นรูปประชาชนทุกวัยแสดงอาการโศกเศร้าหมดความหวังเมื่อกรุงแตก รูปที่สองเป็นรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเกลี้ยกล่อมให้ประชาชนรวมกำลังกันต่อสู้กู้อิสรภาพ รูปที่สามเป็นรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงต่อสู้ข้าศึก และรูปสุดท้ายคือรูปประชาชนพลเมืองมีความสุขที่กอบกู้อิสรภาพได้สำเร็จ โดยอนุสาวรีย์นี้ได้เปิดปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2497 และมีพิธีสักการะพระบรมรูป ในวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี หรือที่เรียกว่า วันถวายบังคมสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เปิดประวัติ เล่าเรื่อง “ม้าทรง” ในพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช […]

Read More
ติดต่อเรา
ปูนปั้นช่างบรรจง รับปั้นรูปสัตว์ต่างๆ
ไก่ปูนปั้น ช้าง ม้า วัว ควาย ช้างทรง ม้าทรง ราคาถูกสั่งได้สอบถามก่อนได้ครับ
Line ID : 0819091660
add-line-icon
สถานที่ตั้งหน้าร้าน...
ร้านตั้งอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านนนท์ณิชาบางใหญ่ 2 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี