ประเพณีผีปู่แสะ ย่าแสะ ที่อยู่กับคนเชียงใหม่อย่างยาวนาน

ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่แต่ละภูมิภาคมีความเชื่อแตกต่างกัน และในแต่ละพื้นที่ในภูมิภาค มักมีความเชื่อประจำถิ่นของตัวเอง ที่เล่าขานกันมาตั้งแต่อดีตกาล ซึ่งความเชื่อบางอย่างเหล่านี้ได้มีการประกอบพิธีที่ทำกันต่อมาเรื่อย ๆ ยันปัจจุบัน กลายจนเป็นขนบธรรมเนียม ประเพณีประจำถิ่น และหนึ่งในภาคเหนือนับเป็นพื้นที่ที่มีความเชื่อเรื่องผีสางมาอย่างยาวนาน และหนึ่งในความเชื่อที่โด่งดังในภาคเหนือ และคนเชียงใหม่รู้จักกันดีกับประเพณีผี ปู่แสะ ย่าแสะ

ประวัติความเป็นมาของ ปู่แสะ ย่าแสะ

ประเพณีผีปู่แสะ ย่าแสะ หรืออีกชื่อคือประเพณีเลี้ยงดง เป็นความเชื่อดั้งเดิมของคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และมีสถานที่บูชาอยู่จริง จัดที่ทางตอนใต้ของดอยสุเทพ บนพื้นที่อุทยาน​แห่งชาติแม่เหียะ โดยประเพณีดังกล่าวเป็นการกราบไหว้บูชา ผียักษ์ 2 ตนคือผีปู่และย่าแสะ ซึ่งคนเชียงใหม่มีความเชื่อว่า ปู่และย่าแสะ เป็นเหมือนดั่งผี ผู้ปกป้องคุ้มครองและรักษาเมืองเชียงใหม่ให้อยู่ดีกินดีมาตั้งแต่ในอดีต

โดยมีประวัติความเป็นมาจากตำนานพื้นเมืองที่เล่าว่า เมื่อก่อนปู่และย่าแสะ อาศัยอยู่กัน 3 ตนกับลูกของตนเอง โดยทั้ง 3 ตนเป็นยักษ์ และด้วยความเป็นยักษ์จึงไล่จับกินผู้คน จนสร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้คนในพื้นที่บริเวณนั้น และเกิดเป็นเรื่องเล่าบอกต่อกันอย่างแพร่หลาย จนเมื่อกระทั่งพระพุทธเจ้า หรือบางที่ก็เล่าว่าเป็นกลุ่มคณะพระสงฆ์ที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา (ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน) ได้เดินทางมาเผยแพร่พระพุทธศาสนา จนเสด็จมาถึงบริเวณดอยสุเทพ บริเวณที่ยักษ์ทั้งสามอยู่อาศัย และได้ยินเรื่องราวความน่ากลัวของยักษ์ที่กินเนื้อคน จึงได้เสด็จไปหายักษ์ทั้งสาม เพื่อเทศนาไม่ให้สร้างความหวาดกลัว และถือศีล ละเว้นการกินเนื้อมนุษย์ จนยักษ์ทั้งสามเกิดความเลื่อมใส และศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในระดับที่ยักษ์คนลูกศรัทธาพระพุทธศาสนาและขอออกบวช อีกทั้งการเทศนาดังกล่าวได้ขอละเว้นการให้กินเนื้อมนุษย์เสีย แต่ยักษ์ได้ขอต่อรองว่า อย่างน้อยขอกินเนื้อสัตว์ตามสัญชาติญาณยักษ์ก็ยังดี จนได้ข้อสรุปว่าให้กินเนื้อควายได้ปีละ 1 ครั้ง

ประเพณีผีปู่แสะ ย่าแสะ ผู้ปกป้องคุ้มครองเมืองเชียงใหม่

แม้ภายหลังยักษ์ปู่แสะ ย่าแสะ จะสิ้นอายุขัยไปแล้ว แต่ชาวบ้านในบริเวณพื้นที่นั้นยังคงเกรงกลัวอิทธิฤทธิ์ และความน่ากลัวของยักษ์ทั้งสองอยู่ จึงยังคงมีการจัดพิธีเซ่นสรวจหรือประเพณีเลี้ยงผีดง บูชาถวายควายให้อยูทุกปี โดยพิธีดังกล่าวจะถูกจัดในวันที่ 14 ค่ำ เดือน 9 เหนือ (เดือนมิถุนายน) ของทุกปี โดยเชื่อว่าวิญญาณของปู่และย่าแสะจะช่วยรักษาและปกป้องคุ้มครองพื้นที่และชาวบ้านให้อยู่อย่างสงบ และปลอดภัย

ด้วยเวลาที่ไหลผ่านไป คนในพื้นที่ หรือคนเชียงใหม่ในอดีต ยังคงสืบทอบและประกอบพิธีกันต่อมาเรื่อย ๆ ด้วยความเชื่อที่ว่า วิญญาณของปู่และย่าแสะเป็นเหมือนดั่งผู้ปกป้องคุ้มครองที่ทำให้ชาวบ้านและเมืองเชียงใหม่ปลอดภัย และสงบสุข พิธีดังกล่าวยังคงถูกจัดมาเรื่อย ๆ อยู่ทุกปี มาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นเหมือนดั่งขนบธรรมเนียม ประเพณีประจำจังหวัดเชียงใหม่ ที่ต้องทำกันทุกปี หรือที่เรียกกันว่า ประเพณีเลี้ยงดงหรือประเพณีผีปู่แสะ ย่าแสะ นั้นเอง

ประเพณีผีปู่แสะ ย่าแสะ ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย

ประเพณีผีปู่แสะ ย่าแสะ ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย

ประเพณีผีปู่แสะ ย่าแสะ คือพิธีที่มีการถวายควายให้ทุกเดือนมิถุนายนของทุกปี เพื่อเป็นการกราบไหว้บูชาและขอให้วิญญาณปู่และย่าแสะ ปกป้องคุ้มครองชาวบ้าวและเมืองอยู่อย่างสงบสุข ซึ่งรายละเอียดของพิธีนี้ในอดีตมีทั้งการบวงสรวจ ถวายควายที่เป็นสัตว์ตัวเป็น ๆ ฆ่าควายและถวายเนื้อควายสดให้แก่ทั้งวิญญาณสอง ผ่านร่างทรง ซึ่งหากมองในอดีตแล้วอาจจะเป็นเรื่องปกติ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเข้าถึงของโลกอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย ทำให้รายละเอียดการประกอบพิธีของประเพณีผีปู่แสะ ย่าแสะ มีผู้คนได้เห็นกันอย่างแพร่หลาย จนเกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าประเพณีนี้ไม่เหมาะสมและดูโหดร้ายป่าเถื่อนเกินไปในยุคสมัยนี้ เนื่องจากพิธีต้องฆ่าควายสด ๆ และมีการให้ร่างทรงกินเนื้อควายสดเพื่อเลี้ยงผีปู่และย่าแสะ

อีกทั้งยังเกิดการถกเถียงกันว่า ควรหยุดประเพณีนี้ไป เพราะประเพณีนี้ทั้งงมงาย และดูโหดร้ายทารุณกับสัตว์ (ควาย) มากเกินไป แต่ในฝั่งของชาวบ้าน หรือคนในพื้นที่ก็มีการโต้แย้งโต้เถียงเช่นกันว่า ประเพณีนี้ทำกันมาอย่างยาวนาน และเป็นประเพณีที่สำคัญของคนในพื้นที่ จะให้เลิกทำทันทีได้อย่างไร

การถกเถียงกันกันไปมาอย่างยาวนานนี้เอง ทำให้มีข้อสรุปในจุดตรงกลางที่ยอมรับได้ว่า ประเพณีผีปู่และย่าแสะยังคงมีการถวายควายให้อย่างเหมือนเดิม แต่เป็นในรูปแบบของรูปปั้นควายแทน เพื่อลดความโหดร้ายทารุณต่อสัตว์ และยังเป็นการสืบทอดประเพณีอันเก่าแก่นี้ต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้เองทำให้พิธีผีปู่แสะ ย่าแสะ หรือประเพณีเลี้ยงดง ของคนเชียงใหม่ในปัจจุบันมีการนำรูปปั้นควายไปถวายบูชาแทน

ซึ่งอดีตกาล ทุกพิธีที่มีการเลี้ยงผีมักจะมีการฆ่าควายเพื่อถวายผีอยู่อย่างเสมอ ในอดีตคนเรามองว่าการฆ่าควายอาจเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร แต่กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ความโหดร้ายทารุณต่อสัตว์ที่มีน้อยลง การฆ่าควายเพื่อประกอบพิธีจึงไม่ใช่เรื่องเหมาะสมสักเท่าไรนักกับยุคสมัยนี้ จึงได้มีการทำรูปปั้นควาย ที่เปรียบเสมือนตัวแทนควาย ในการกราบไหว้บูชา และประกอบพิธีแทน

ศาลปู่แสะ ย่าแสะ กับการกราบไหว้บูชา

ศาลปู่แสะ ย่าแสะ กับการกราบไหว้บูชา

ประเพณีเลี้ยงดงหรือประเพณีผีปู่แสะ ย่าแสะ ไม่ได้มีแค่การประกอบพิธีในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น แต่ยังมีศาลสำหรับปู่และ ย่าแสะ เพื่อให้ผู้คนมากราบไหว้บูชา ได้อีกด้วย ศาลปู่และย่าแสะนับว่ามีความศักดิ์สิทธ์เป็นอย่างมาก เพราะประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาและเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา จึงทำให้คนไทยหลายคนนำปูนปั้นควายไปกราบไหว้บูชา บนบานสานกล่าวอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งหากใครที่ต้องการกราบไหว้บูชาปู่แสะ ย่าแสะนี้หรือมองหารูปปั้นควายในการนำไปกราบไหว้บูชา และการบน สามารถติดต่อได้ที่ปูนปั้นช่างบรรจง เราพร้อมรับทำปูนปั้นควาย ทุกขนาด ทุกแบบที่ต้องการสนใจโทรสอบถามช่างบรรจง โทร 081-909-1660

Relate Post

02/09/2024
“ของแก้บน” ความเชื่อที่มาพร้อมกับการ “บนบาน”

“ของแก้บน” ความเชื่อที่มาพร้อมกับการบนบาน ถือว่าเป็นสิ่งที่ยากจะลบเลือนไปจากสังคมไทย ตราบใดที่วาทกรรมอย่าง “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ยังคงส่งผลกับความเชื่อของคนในปัจจุบัน เพราะความเชื่อในสังคมไทยนั้นมีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ถ้าจะให้ปฏิเสธความเชื่อในสังคมไทยโดยยึดหลักเหตุผลอย่างเดียวคงต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะเป็นสิ่งที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมาตั้งแต่อดีต จุดเริ่มต้นความเชื่อของมนุษย์เกิดจากความกลัวในสิ่งที่ตนเองไม่สามารถควบคุมได้ ตั้งแต่ฝนตก แดดออก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ประกอบกับในอดีตมนุษย์มีความซับซ้อนในการอธิบายน้อย และไม่มีองค์ความรู้ในการพัฒนาวิธีคิด จึงทำให้เกิดความคิดที่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอำนาจเหนือธรรมชาติ มีวิญญาณบางอย่างสถิตอยู่ จึงเป็นที่มาของการนับถือ บูชา อำนาจเหนือธรรมชาติ จนกลายเป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ จนพัฒนามาเป็นลัทธิ ความเชื่อ นำมาสู่การบูชา และบนบาน แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป แต่การถ่ายทอดความเชื่อเรื่องการแก้บน และการบนบานยังไม่ได้หายไป เพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของยุคสมัย ที่คนสามารถเข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น มีการแชร์ มีการโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อออกไปอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นกระแสให้หลายคนเกิดความรู้สึกอยากลองทำตาม หนึ่งในนั้นก็คือการบนบาน และการแก้บนนั่นเอง เปิดตำราพามู “ของแก้บน” ที่ควรรู้ สายมูไม่ควรพลาด! การบนบาน เป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ทั้งจากข่าว หรือจากคนใกล้ตัว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการบนบานไปแล้ว จะต้องมี “ของแก้บน” ไว้สำหรับแก้บนด้วย ซึ่งการแก้บนนั้นมีอยู่หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การรำ หรือการถวายของแก้บน วันนี้ เราจึงจะพาคุณมาดูของแก้บนที่คนนิยมนำมาแก้บนจากการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่ามีอะไรบ้าง […]

Read More
02/09/2024
เสริมดวงด้วยรูปปั้น สัตว์มงคล ดึงดูดทรัพย์รับโชค

“สัตว์มงคล” หนึ่งในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ให้ความเคารพ และหันมาบูชาเป็นจำนวนมาก เพราะตามความเชื่อโบราณแล้วหากใครที่ดวงชะตาไม่ดี นอกเหนือจากการสะเดาะเคราะห์ ทำบุญ เสริมกรรมดีให้ชีวิตอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยเสริมดวงชะตาได้ก็คือ การบูชาสัตว์มงคลตามดวงชะตา ฉะนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มความโชคดีให้กับชีวิต เรามาดูพร้อมกันเลยดีกว่าว่ามีสัตว์มงคลอะไรบ้างที่จะช่วยเสริมดวงชะตาให้ชาวสายมูอย่างเรา ๆ!  สิงโตคู่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสิงห์คู่ ถือเป็นสัตว์มงคลที่ช่วยปกปักรักษาทรัพย์สิน และคุ้มครองคนในบ้าน อีกทั้งยังช่วยเรื่องอำนาจ เงินทอง ช่วยปกป้องคนในบ้านให้ปลอดภัย อยู่เย็นเป็นสุข นอกจากนี้ยังช่วยแก้ฮวงจุ้ยตำแหน่งทางสามแพร่ง ซึ่งถือเป็นทางผ่านของสิ่งอัปมงคลได้อีกด้วย มังกรถือเป็นหนึ่งในสัตว์มงคลที่มีมาตั้งแต่โบราณตามหลักความเชื่อของจีน โดยเชื่อกันว่าถ้าบ้านใดก็ตามมีการประดับด้วยรูปปั้น หรือภาพมังกร จะช่วยเสริมเรื่องความมั่งคั่ง พลังอำนาจ ช่วยเรียกโชคลาภให้มาเยือน ชีวิตไม่ตกต่ำ ยากจน และช่วยเสริมพลังดี ผลักพลังร้ายออกจากชีวิตได้ สัตว์มงคลที่ช่วยเรื่องของการค้าขายให้ราบรื่น รวดเร็ว และฉับไว นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงแก่ผู้บูชา  สำหรับใครที่อยากเสริมบารมีให้ผู้คนยำเกรง ลูกน้องอยู่ในโอวาท การแขวนภาพ หรือรูปปั้นเสือจะช่วยเสริมดวงชะตาได้ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันภูติผีปีศาจ และช่วยเสริมให้หน้าที่การงาน ธุรกิจประสบความสำเร็จ มีแต่ความราบรื่น เนื่องจากเต่าเป็นตัวแทนของการมีอายุยืนยาว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เจ็บป่วยบ่อย หรือต้องการเสริมดวงชะตาด้านสุขภาพ คุ้มครองชีวิตให้มีอายุยืนยาว  สัตว์มงคลที่จะช่วยเสริมดวงชะตาให้ผู้คนรักใคร่เมตตา ทำกิจการงานใดก็สำเร็จดังหวัง อีกทั้งช่วยเสริมบารมีเรื่องความรักได้อีกด้วย  ตามความเชื่อของจีนเชื่อว่า กวางเป็นตัวแทนของความมั่งมีศรีสุข และช่วยให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา […]

Read More
01/08/2024
รูปปั้นเสือ ณ โค้งปิ้งงู (ประวัติความเป็นมาที่ทำให้ผู้คนถวายรูปปั้นเสือที่โค้งปิ้งงู)

ไม่ว่าจะสถานที่ไหน ๆ ของประเทศไทยเราล้วนต้องมีเรื่องเล่าหรือความเชื่อบางอย่างที่ผูกติดจากคนรุ่นก่อนมาเสมอ และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่ทุกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือสถานที่ที่มีความเชื่อเหล่านี้ มักมีสิ่งบูชาทั้ง พระพุทธรูป หรือปูนปั้นรูปทรงสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ม้าลาย ช้าง ไก่ หรือเสือ มาวางบูชาอยู่ด้วยเสมอ และหนึ่งสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสกลนคร และยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งกับ รูปปั้นเสือ ณ โค้งปิ้งงู โค้งที่มีการวางปูนปั้นเสืออยู่มากมายหลายร้อยตัว และไม่ว่าใครก็ตามที่ขับผ่านจะต้องบีบแตรกราบไหว้อยู่เสมอ โค้งปิ้งงู อยู่ในโซนพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูพาน จังหวัดสกลนคร โดยเป็นเส้นทางขึ้นเขาภูพานที่มีลักษณะโค้งลัดเลาะและโค้งที่คดเคี้ยวเป็นอย่างมาก หากมองจากมุมสูงแล้วจะดูเหมือนงูกำลังถูกปิ้งแล้วตัวคดเคี้ยงไปมา คำถามถัดมาคือ ทำไมโค้งปิ้งงูถึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ว่าใครก็ตามขับขี่ผ่านมาต้องบีบแตรกราบไหวกันเสมอ ด้วยความเป็นโค้งที่มีความคดเคี้ยวสูง และเป็นทางลาดชันภูเขาของพื้นที่อุทยาน การเดินทางสัญจรในบริเวณนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังสูงอย่างมาก ประกอบกับพื้นที่บริเวณโค้งดังกล่าวมีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง พร้อมกับรูปปั้นเสือวางบูชาอยู่มากมายหลายร้อยตัว จึงทำให้ต้องบีบแตรแทนการกราบไหว้ เพื่อขอให้เดินทางปลอดภัย เพราะหากยกมือไหว้แบบปกติอาจเกิดอุบัติเหตุได้ และด้วยเหตุนี้โค้งนี้จึงถูกผู้คนแถวนั้นเรียกกันว่า “ศาลเจ้าพ่อเสือ” และทำให้โค้งปิ้งงูกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนท้องถิ่น และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสกลนคร ที่ไม่ว่าใครที่ผ่านทางมาก็ต้องบีบแตรกราบไหว้กันเพื่อขอให้เดินทางปลอดภัยเสมอ ทำไมถึงมีรูปปั้นเสืออยู่ที่โค้งปิ้งงู โค้งปิ้งงู เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์แห่งหนึ่งได้ เพราะการมีอยู่ของพระพุทธรูปที่มีนามว่า “พระพุทธลีลามิ่งมงคลสกลสันติสุขศรีสุวรรณบรรพต” แต่พระพุทธรูปองค์ดังกล่าว ไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นคนเอามาวางไว้ และวางไว้ตั้งแต่เมื่อไร บวกกับการเดินทางที่ยากและอันตราย จากโค้งอันคดเคี้ยว จึงมีการสันนิฐานว่า คนพื้นที่บริเวณนั้นในอดีตได้มากราบไหว้พระพุทธรูปองค์นี้อยู่เสมอ และมักมีการนำรูปปั้นเสือมาถวาย เพื่อขอให้การเดินทางผ่านพื้นที่โค้งป่านี้เป็นไปได้อย่างปลอดภัย […]

Read More

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ติดต่อเรา
ปูนปั้นช่างบรรจง รับปั้นรูปสัตว์ต่างๆ
ไก่ปูนปั้น ช้าง ม้า วัว ควาย ช้างทรง ม้าทรง ราคาถูกสั่งได้สอบถามก่อนได้ครับ
Line ID : 0819091660
add-line-icon
สถานที่ตั้งหน้าร้าน...
ร้านตั้งอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านนนท์ณิชาบางใหญ่ 2 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี